Wednesday, January 19, 2011

พาเที่ยวบ้านจ๊า




 บ้านใหม่  
(เก่าของเค้า ใหม่ของเราล่ะ ข้างใน ใหม่มาก สงสัยทาสีใหม่น่ะ ) 




เก๊กอยู่มุมเดียว มุมอื่นมีแต่ฝาผนัง



ถ่ายตรงอื่น มันเห็นแต่ผนังสีขาวๆ   
เพราะยังไม่มีข้าวของน่ะ 

มีห้องครัวที่ไม่ขาว 
ทางเดินวกวนมาก  เพราะเป็นบ้านที่ต่อห้องเพิ่ม สองฝั่ง 

3 ห้องนอน  2 ห้องน้ำ  ห้องกินข้าวแยก จากครัว ต่างหาก  
ข้างในกว้างและวกวนมาก 
เพราะมัน ต่อจากบ้านเดิมน่ะ  
อ๊อ มี ประตูเปิดไประเบียงหลังบ้าน เป็นสนามเด็กเล่น เล็กๆ  

จะทำเป็นมุมกาแฟ เหมือนนั่งในคอฟฟี่ช็อปตามโอ้ทแนะนำล่ะ



บรรยากาศรอบๆ





ตรงนี้เป็นที่จอดรถ สำนักงานหมู่บ้าน  
ทางด้ายขวาเป็นสำนักงานหมู่บ้านน่ะ
  มีสระน้ำ  ที่ออกกำลังกาย 

ที่อพาตเมนท์ก็มีสระน้ำ ที่ออกกำลังกาย  ไม่เคยไปใช้บริการแม้แต่ครั้งเดียว  
ที่นี่ก็คงเหมือนกันแหละ คนที่บ้านอ้วน อายหุ่น

ตรงนี้ดูสะอาดเนอะ  แต่โซนที่อยู่ ดูรกๆ หน่อย บ้านติดๆกันน่ะ
และเป็นบ้านทั้งสองฝั่งถนน
ไม่ดูโล่งแบบนี้ 



ฝั่งถนนเก่า ดูเก่ามาก 


ตรงกลางมีต้นไม้  สนามเด็กเล่น มีเงาร่มๆให้เดินเล่น เย็นๆ ใจ



Present Perfect have ,has + V.3 , Past Perfect had +V.3

เมื่อวานพูดถึง  3 Tenses ใหญ่ๆ คือPresent  , Past ,  Future 
และใน3 กาลนี้ แบ่งย่อยเป็น 4 ชุด แต่จะไม่พูดถึงชุดที่ 4 Perfect Progressive นะ ยาก
และในชีวิตจริงไม่ค่อยได้ใช้น่ะ

ชุดที่ 1 Simple 
Present Simple  ,  Past Simple   ,   Future Simple  
ชุดนี้คงนึกออกกันเนอะ   ง่ายๆ ตรงตัว 

ชุดที่ 2 Progressive , Continuous 
Present Progressive    , Past Progressive  ,   Future  Progressive 
อันนี้ก็พอนึกออก ยังตรงๆ ธรรมดา 

..................................................................................
ชุดที่ 3 Perfect       Present Perfect   ,  Past Perfect    ,    Future Perfect
อันชุด3นี้ แหละ ที่น่าจะงงกัน  และไม่ค่อยได้เอามาใช้น่ะ ทั้งที่ก็มีโอกาสเอามาใช้ในประโยคชีวิตประจำวันอยู่นะ 




เราเองก็ไม่ค่อยใช้ น๊าน นาน................ถึงจะใช้ที ขี้เกียจคิด  
เอาแค่ธรรมดาชุดแรกให้รอดก่อนละกัน  

มาดู 2 แรกบนของชุดนี้นะ Present Perfect    Past Perfect   
อันนี้ที่โอ้ท อยากให้ พูดถึง

Present Perfect   : Present ปัจจุบัน  , Perfect สมบูรณ์
แปลเองนะ แบบนึกภาพตามได้ง่ายๆ  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วอย่างสมบูรณ์ ในปัจจุบัน
Perfect :สมบูรณ์ เวลานึกถึง V.  ต้องใช้ V.3 ที่หมายถึง ทำเสร็จไปเรียบร้อยอย่่างสมบูรณ์แล๊ว
แต่เชื่อมโยงมาถึงปัจจุบัน
และอย่างที่พูดไปแล้ว  ต้องมี Verb to have นำหน้า

Present ปัจจุบัน ก็ใช้ have,has
Past อดีตก็ใช้ had
-----------------------------------------
สรุป Present Perfect   : have , has + V.3
Past Perfect   : had + V.3 
-----------------------------------------
ทีนี้ก็มาดูว่า 2 อันนี้เลือกใช้ ต่างกันยังไง
Past Perfect   : had + V.3  ใช้เมื่อมีเหตุการณ์หนึ่ง เกิดขึ้น(และเป็น Past perfect ) ก่อนเหตุการณ์อีกเหตุการณ์หนึ่ง ในอดีต จะเกิดขึ้นอีกแน่ะ
ถ้าไม่มี เหตุการณ์ในอดีต2เหตุการณ์ มาพูดถึงในประโยคเดียวกัน ก็ตัดประโยค had + V.3 ไปได้เลย  
-------------------------------------------------------------------
กลับไปที่  Present Perfect   : have , has + V.3
พูดถึงเหตุการณ์ เหตุการณ์เดียวได้    แต่ขอให้เป็น เหตุการณ์ที่ทำมาแล้วในอดีต แต่ยังมีผลถึงปัจจุบัน
ไม่เหมือน อดีตธรรมดาๆ หรือPast Simple  (ที่โดยทั่วไปเรามักเลือกพูดถึงอดีตทุกอย่างในฟอร์มนี้ )

ถ้าเป็นลูกศรวาดเส้น เหตุการณ์

Past Simple จะลากมาจากเวลาที่เกิดเหตุมาถึง เวลาที่สิ้นสุด ในอดีต และจบไปเลย ไม่ลากเส้นต่อ

แต่ Perfect จะลากเส้นเหตุการณ์ต่อได้

Past Simple   อันนี้ ลากเส้นเหตุการณ์ มาจนถึงปัจจุบันและ อนาคตไม่ได้
x____________x
Past .......................Present........................Future............................

Ex. I went  shopping with my husband yesterday.
ไปช็อปมาเมื่อวาน จบไปแล้ว อดีต ธรรมดาๆ ไม่มีลากเส้นต่อ
ปกติเราเลือกใช้แบบนี้แหละ อธิบายอดีต ง่ายดี  แค่นี้ก็ยังใช้ V.2 ,V.3 ปนกันมั่วเลย


Past Perfect     ทำจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน และอาจทำต่อไปเรื่อยๆ ในอนาคตอีก ลากเส้นไปได้เรื่อยๆ
x____________x ___ / ___________________ /___________________
Past .......................Present........................Future............................


อันนี้แหละ คือ ประโยคที่ใช้  have ,has + V.3


Ex.   I have lived here for 2 years.
ถ้าพูดแบบนี้ แสดงว่า อยู่นี่มาจนถึงปัจจุบัน   เป็นเวลาทั้งหมด 2ปี
ส่วนใหญ่ เราจะพูดง่ายๆ I lived here 2 years เวลา บอกว่าเราอยู่มานานเท่าไหร่
ฝรั่งก็เข้าใจน่ะ เพราะตัวเราก็ยังอยู่ เค้ารู้  คนส่วนใหญ่ก็พูดแบบนี้แหละ
แต่ถ้าดูตาม Tenses ต่างๆ มันไม่ถูกต้องเป๊ะนะ คือถ้าพูดกันก็พอเข้าใจสื่อสารกันได้ นึกออกว่าจริงๆคืออะไร
แต่ถ้าเอาไปเขียน นี่ จะแปลไม่เหมือนกัน

ถ้าจะเขียนให้ถูกต้อง ( บอกตัวเองด้วย ลืมสนใจประจำ )
เหตุการณ์อะไรที่ทำมาในอดีต และปัจจุบัน ยังทำอยู่ ใช้ รูป แบบ Perfect form น่ะ (  have, has + V.3 ) : Present Perfect

และถ้าเป็น Present  Perfect  แล้ว แต่มีอีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นตามหลังและเอามาพ่วงด้วยกัน 
ประโยค Present Perfect  ( have, has + V.3 ) นี้ ก็ ต้อง ขยับไปใช้ form ประโยคอดีตกว่า
คือใช้ Past Perfect น่ะ ( had + V.3 )   อดีต ของอดีต และก็ยังทำอยู่ในปัจจุบัน
หุหุ   ยิ่งพูดยิ่งงไม๊  งง  แหละ กลับมาอ่านที่เขียนเอง ยัง งงเลย อิอิ

นึกตัวอย่าง ประโยคเหตุการณ์ในชีวิตจริงตามไปเรื่อยๆ เยอะๆ  จะนึกภาพออกน่ะ
Ex.   My husband 's family have gone on vacation.
อันนี้ ใช้ have + V.3  : Present Perfect ทำมาในอดีต และยังทำอยู่
แสดงว่า ไป vacation และยังไม่กลับ

แต่พอมีอีกหนึ่งเกิดทีหลัง    เหตุการณ์แรกเก่ากว่า เกิดก่อน จาก have ก็ขยับไปใช้ had ให่้รู้ว่า เก่ากว่า เกิดก่อน

Ex.  My husband told me that his family had gone  on vacation.
สามีบอกเราว่า ครอบครัว สามีเดินทางไปvacation (เดินทางไปก่อนบอกเรา) และ ปัจจุบัน ยังไม่กลับกัน ยังon vacation กันอยู่  : จะเห็นว่า ทั้งสองเหตการณ์เริ่มต้นในอดีต  อันหนึ่งจบแล้ว อันหนึ่งยังไม่จบ

เกิดแล้ว จบแล้ว ใช้ Past ธรรมดา V.2 told
เหตุการณ์ที่เกิดก่อน และยังไม่จบด้วย ใช้ Past perfect  : had + V.3

*** แต่ถ้าเป็น 2 เหตุการณ์ เกิดขึ้น และจบสิ้น ทั้ง 2เหตุการณ์ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องเวลาก่อนหลังก็ Past ธรรมดา และ Past ธรรมดา
 I told you that I went shopping with my husband yesterday.

นอกจากนี้  Perfect formยังใช้ในเหตุการณ์อื่นที่เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ในอดีตและ มีข้อย่อยอื่นๆ ที่จะใช้ ได้อีก

เดี๋ยวไปขยายเรื่องประโยค ที่จะใช้ Present Simple ( have,has + V.3 ) หน้าใหม่นะ

ยิ่งเล่ายิ่งงง รึเปล่านี่  แต่พูด ซ้ำไปซำ้มา จะได้ มีอะไรติดอยู่ในความทรงจำมั่ง อิอิ

Tuesday, January 18, 2011

มาปวดหัวกับ Tenses กัน

โอ้ท อยากให้พูดเรื่อง Tenses ต่างๆ หินเลยนะ เรื่องนี้น่ะ
หลายๆคนบอกว่า เรียนมาตั้งนาน อันนี้แหละยากสุด

คิดเหมือนกัน
แต่พอมาอยู่นี่ มาตั้งใจอ่านใหม่ และนึกถึง ชีวิตจริงไปด้วย พอจะนึกออกเข้าใจขึ้น
แต่ไม่เชี่ยวชาญนะ


จะเล่า ประเด็น คร่าวๆที่จำได้ละกัน
โอ๊ย พิมพ์ไปตั้งเยอะ  คอมค้างไปต่อไม่ได้เสียดายมาก


เอาแบบรวบรัดนะ ไม่รู้จะรวบได้แค่ไหน อิอิ

Tenses มี 3 อันใหญ่ๆ   รู้จักกันหมดแล้วแหละ

Present  ปัจจุบัน  อันนี้ นึกถึง V.ช่อง1 ง่ายๆเนอะ
Past  อดีต เหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้ว โดยทั่วๆไป  เวลาเราพูด เราก็จะนึกถึงถึง V.ช่อง 2
Future อนาคต อันนี้ นึกถึง will หรือ  to be going to

แตกต่างกันยังไก็คงนึกออกง่ายๆ

ในแต่ละอัน ก็จะแยกย่อยไปอีก

1. Simple ก็ประโยคง่ายๆ  ความหมายไม่ซับซ้อน
Present Simple   S.+ V.1
Past Simple S. + V.2 
Future Simple  S. + will, shall + V.1 
หรือ S.+ is am are + going to + V.1

2. Continuous ที่นี่เรียก Progressive น่ะ  

V. จะต้องเป็น V.1 เติม ingไป แต่ต่างกันตรง Verb นำหน้า

Present Progressive S. + V. to be ( is am are ) + V1.ing
Past Progressive  อันนี้ก็เปลี่ยน ตรง V. to be ใช้ was , were + V.1ing
Future  Progressive อันนี้ก็ลอกมาจากข้างบน เหมือนกัน  แต่ตรง Verb to be ใช้คำว่า  be  เลย
ก็จะเป็น  S.+ will, shall + be + V.1ing


ไม่ต้องไปสนใจข้อนี้มากหรอก   คิดมาก จะงงมากเปล่าๆ
แต่จำรูปแบบฟอร์ม  มันจะเหมือนกันหมด  เปลี่ยน ตรง Verb  to be ที่ใช้ ตรงกลาง

2ข้อย่อยนี้พอได้เนอะ

ข้อย่อยต่อไป  อันนี้  เริ่มไม่คล่องละ แต่จะพยายามเล่าตามความเข้าใจ ที่พึ่งมาเข้าใจมากขึ้นนะ
3. Perfect 
Perfect คืออะไร
Perfect หมายถึง สมบูรณ์ เรียบร้อย ก็น่าจะใช้กับเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วเนอะ
แต่ผ่านมาแล้ว เรียบร้อยแบบไหน เดี๋ยวค่อยพูดถึงรายละเอียดนะ

Perfect form คือ V.ช่อง3  ที่นำหน้า ด้วย Verb to have ( have,has,had )
ถ้าอยากพูด V.3 จะไม่พูดโดดๆ จะต้องต่อจาก Verb to have น่ะ จะเป็นการพูดการ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สมบูรณ์แล้วในอดีต

Perfect form ในของทั้ง 3 Tenses

Present Perfect    S.+  have, has +V.3
Past Perfect  S. + had + V.3 
Future Perfect   S.+  will, shall + have  + V.3 

อันนี้ จำรูปแบบ ไม่ยากนะ เหมือนกันหมด ตรง Perfect ต้อง เป็น V.3 แต่ตัว Verb to have ที่นำหน้าก็ดูจาก
Present หมายถึงปัจจุบัน  ก็ใช้ have หรือ has +V.3
Past หมายถึงอดีต ก็ไปใช้ Verb to have ที่เป็น past คือ had + V.3 
Future มันไม่ใช่ past ก็ใช้เหมือนปกติ คือ have , has +V.3 แต่ Future ก็ต้องมี will หรือ shall ด้วย
Future P.ในชีวิตจริงไม่ค่อยมีใครใช้ ไม่ต้องไปสนหรอก อิอิ คนเล่าก็ไม่ค่อยเข้าใจน่ะ อย่าไปสนเลย 


ทีนี้ ก็มาตั้งข้อสงสัยกันนะ ว่า
Present Perfect ที่เป็นเรื่องราวของอดีตที่ใช้ ้has, have + V.3นี่ ต่างกับ 
Past ธรรมดา หรือ Past simple  ที่พูดถึงอดีต โดยใช้ V.2 ยังไง


และไปต่างกับ Past Perfect ที่ใช้ had + V.3  ยังไง


Past ธรรมดา  หรือ ที่เราใช้พูดเหตุการณ์อดีตบ่อยๆ คือ V.2 มันก็คือการพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตนี่นา
ใช้ต่างกันยังไงล่ะเนี่ยะ  ปวดหัวเนอะ

มาดู Past Simple หรือเราชอบเรียกว่า Past ธรรมดา คืออดีตแบบธรรมดาก่อนละกัน
อันนี้พูดถึงเหตุการณ์ในอดีตและ สิ้นสุดแล้ว จบไปแล้ว
I  went to the temple last month. พูดถึงอดีต ธรรมดา ง่ายๆ  ไปเมื่อเดือนที่แล้ว จบไปแล้ว

แต่  Present Perfect นี่ จะเป็นเหตุการณ์ในอดีต ที่ทำในอดีตแต่ยังทำมาจนถึงปัจจุบัน
หรือส่งผลมาถึงปัจจุบัน
ยกตัวอย่างแล้วจะเห็นความแตกต่างง่ายน่ะ
I have lived here for 2  years.   อยู่ที่นี่ มา 2ปีแล้ว ใช้ have + V.3 นี่คือ อธิบายว่าปัจจุบันก็ยังอยู่



เอาใหม่อีกรอบง่ายๆ
***อันไหน ทำแล้ว  ทำแบบสั้นๆ ครั้งเดียว จบแล้ว ก็ V.2 Past Simple นู่นเลย  อ่านเพิ่มนะ

***อันไหน ทำมาแล้วและยังทำอยู่ น่าจะเป็น V.3 คือ Perfect นะ
ที่บอกว่าน่าจะเป็น เพราะมันมีรายละเอียด ข้อแม้อีก เดี๋ยวมาต่อ
ละก็บอกข้างบนแล้วว่า V.3 จะต้องตามหลัง V.to have

เหมือนจะเริ่ม งง เนอะ คนอธิบายก็เริ่มมึนละ

เดี๋ยวมาอธิบาย แยก have has had  ที่นำหน้า V.3 พรุ่งนี้
 ไปพักผ่อนก่อนจ๊า
ยาวไปเนอะ แต่ถ้าไม่เล่าเริ่มต้น มันก็จะมองไม่เห็นความแตกต่างง่ายน่ะ

ถ้ามีตรงไหนผิดก็บอกด้วยน๊า  พิมพ์เยอะ อาจพลาดได้
หรือตรงไหนพูดผิดไปก็บอกด้วยจ๊า

จากที่ตัวเองพยายามทำความเข้าใจนะ จำเป็นกลุ่ม
3กลุ่มใหญ่ก่อน แล้ว มาแบ่งกลุ่มย่อย ในแต่ละกลุ่มย่อย ไอ้ 3ข้อที่บอกจะคล้ายๆกันน่ะ
3ข้อใหญ่ที่ว่า คือ  Present   Past    Future

และก็แต่ละอันจะมีเหมือนกันคือ
Simple ,Progressive , Perfect , Perfect Progressive
เอา 3 คำใหญ่ มาใส่ ข้างหน้าแต่ละอันย่อยนี้ แล้วนึกเรียงกันลงไปเป็นชุดๆ ตามที่เล่าข้างบน  จะพอนึกออกน่ะ


ชุดที่ 1 Simple 
Present Simple 
Past Simple
Future Simple

ชุดที่ 2 Progressive , Continuous 
Present Progressive 
Past Progressive  
Future  Progressive 

ชุดที่ 3 Perfect 



Present Perfect   
Past Perfect  
Future Perfect   



(อันตัวสุดท้ายPerfect Progressive นี่ขอบายนะ ยาก ไม่ค่อยมีใครคิดพูดด้วย ยกตัวอย่างยากน่ะ  )

จะมีใครมาอ่านบ้างเนี่ยะ อิอิ

Gerund รอบ2

มาต่อเรื่อง Gerund หรือ V.ing อีกนะ ยังไม่หมดน่ะ

Verbs ต่อไปนี้ ใช้ แบบ V.ing หรือ to + Inf. มีความหมายต่างกัน
( to + Inf. คือ Infinitive  with to หรือภาษาไทยบ้านเราพูดง่ายๆ ว่า V.ช่อง1 น่ะ )


remember 

I remember meeting my friends last month.
ฉันจำได้ถึงการพบเพื่อนของฉันเมื่อเดือนที่แล้ว

I remember  to meet my friends tonight.
ฉันจำได้ว่าจะต้องพบเพื่อนของฉันคืนนี้

เห็นความแตกต่างหรือเปล่า

ถ้าความหมาย remember ในประโยค หมายถึง จำได้ถึงเหตุการณ์ในอดีต ใช้ remember + V.ing
ถ้าความหมาย remember ในประโยค หมายถึงจำได้ว่าจะต้องทำสิ่งนั้นในอนาคตใช้ remember to + V.1


need 

My house needs cleaning .

I need to clean my house with in this week.

need + V.ing มีความหมายเป็น passive สิ่งนั้นต้องการการถูกกระทำ
need + to + Inf. มีความหมายว่า ต้องทำสิ่งนั้นให้เสร็จ

stop 

He stops smoking.
He stops to talk to me.

stop + V.ing = เลิกทำสิ่งนั้น ,หยุดทำสิ่งนั้น
stop + to + Inf. = หยุดสิ่งสิ่งอื่น เพื่อมาทำอีกสิ่งหนึ่ง
สิ่งหนึ่งนั้นก็คือ V. ที่ตามหลัง to

go on 

She goes on exercising for 45 minutes.
She goes on to use the new computer.

go on + V.ing = ทำต่อไป
go on + Inf. = ทำหรือพูดสิ่งใหม่ๆ



I'm sorry
I'm sorry for telling you. I apologize for a previuous action.
I'm sorry to tell you that your flight will be delayed. = I apologize for something that will happen. 



มีหมายเหตุอื่นๆอีก แค่นี้ก่อนละกันเนาะ
พูดมากเดี๋ยวจะปนเปกันไปหมด


ตัวอย่างแบบทดสอบก่อนจากไป

1. Would you mind ....................( open ) the door , please?
ใช้อะไรดี   to open หรือ opening คิดว่าจำได้กันแล้วล่ะนะ

2. He  stops ..........(greet) me, even he is very busy.





คำตอบ
ข้อ 1. opening อันนี้ยกตัวอย่างบ่อยแล้ว

ข้อ 2. หยุดสิ่งอื่นมาทำหนึ่ง   ก็ต้องเป็น stop to greet

ถ้า stop greeting me อันนี้จะหมายถึง เลิกทักทายฉัน ไม่ทักอีกน่ะ

จำจาก stop smoking นะ อันนี้ได้ยินบ่อย
อยากพูดว่าหยุดอะไร ก็ stop + V.ing
แต่ถ้าหยุดเพื่อมาทำอีกสิ่งหนึ่ง stop to V.1

ตัวอย่าง V. ที่ปกติจะตามด้วย to + Inf. หรือ to + V.1


 The verbs followed by infinitive only. 
V. พวกนี้ ตามด้วย to + V.1 เท่านั้น ไม่ตามด้วย V.ing 
จำไม่ได้เหมือนกันแหละ ต้องใช้บ่อยๆ ละก็ ส่วนใหญ่ ความหมายคือ จะเป็น V.ที่นำน่าการทำอะไรซักอย่าง  ตัวหลังเป็นกิริยาอาการน่ะ  ข้างหลังคำเหล่่านี้ก็เลยเป็น to + V.1 

agree                    decide                   hope                      order                     promise
allow                    demand                instruct                 permit                   refuse
appear                  encourage            invite                     persuade               remind
arrange                fail                         learn                     plan                         seem
ask                       forbid                    manage                 prepare                   swear
choose                  force                     offer                      pretend                  warn


คลิ๊กไปดูเพิ่ม เยอะ

Monday, January 17, 2011

Gerund รอบ1

วันนี้จะเขียนเรื่อง Verb +ing
หรือที่เรียกว่า Gerund


ตอนเข้าไปเรียน ESL ใหม่ๆ  คุณครูพูดถึงคำนี้
คนอื่นรู้เรื่อง เราไม่รู้น่ะ ว่ามันคืออะไร
กลับมาเปิดหนังสือหาดู อ๋อ มันคือ V.ing รู้แค่นี้ แต่ไม่ได้ อ่านละเอียด
และไม่คุ้นเลย ว่าคุณครูเคยสอน และให้เรียกว่า Gerund
ไม่คุ้น ซักนิด ไม่รู้สึกว่าเคยเรียนคำนี้มาในชีวิตนี้เลย
จริงๆแล้ว เราคงสมองฝ่อ ลืมเองน่ะ

เพราะในหนังสือคู่มือมัธยมก็มีอธิบายคำนี้น่ะ
(มีหนังสือ คู่มือเตรียมสอบภาษาอังกฤษ ระดับ ประถม มัธยมหอบมาด้วยน๊า
อยากทบทวน ตั้งแต่ ที่เรียนตอนเด็กๆน่ะ เลยซื้อมาไว้ตั้งนานแล้ว)


คัดลอกมาจาหหนังสือ คู่มือแกรมม่า ม.ปลายนะ

Gerund คือ V.ing ( Verb ที่เติม ing ) ซึ่งใช้ได้ในลักษณะต่างๆกัน
1.ทำหน้าที่ ในฐานะที่เป็น Subject (ประธาน)ของประโยค
เช่น Walking is good exercise.

2. ทำหน้าที่เป็น Object (กรรม) ของประโยค
เช่น I like swimming.

3. ใช้ตามหลัง Preposition
on   by   in   with   within   of   up   from   after
feel like
be tried of
give up
think about

 และอื่นๆอีกมากมาย


ตัวอย่างประโยค ที่รูปแบบประโยค   หลัง preposition ตามด้วย Verb ในรูปแบบGerund  
I will call you after arriving at the office.


4. ใช้ตามหลัง Verbs ต่อไปนี้
avoid
enjoy  
deny
can't help
can't bear
stop
finish
miss
practice
admit
consider
involve
risk
enjoy
mind
imagine
และอื่นๆอีก   อันนี้แค่ยกตัวอย่าง คุณครูบอกว่าต้องจำเอาน่ะ  
คุณครูให้จำว่า ส่วนใหญ่ จะเป็น Verbs ของอารมณ์ ความรู้สึกน่ะ จะตามด้วย Gerund หรือ V.ing

Verbความรู้สึก เช่น enjoy ยกมาเป็นตัวอย่างนะ (จริงๆมีเยอะกว่านี้ จำได้ไม่หมดหรอก )
I enjoy eating.  จะเห็นว่าเค้าไม่พูดกันว่า   I enjoy to eat. น่ะ

คงใช้กันอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไรในแกรมม่าน่ะ

( like , love ก็ตามด้วย Gerundได้ เป็นV.อารมณ์ความรู้สึกเหมือนกัน  แต่ like ,love นี่จะแยกไปอยู่ใน ข้อข้างล่างนะ  คือ ใช้กับ Gerund ก็ได้ หรือไม่ใช้ก็ได้)

ตอนได้ยินครั้งแรก ในห้อง ESL ไม่รู้จักนะ  แต่เพื่อนๆที่เรียนมาก่อนรู้จักน่ะ
พอกลับไปอ่านเองครั้งแรก ก็ไม่ได้สนใจว่ามันคืออะไรมากนะ
แค่ขอรู้ว่า Gerund นี่มีด้วยเหรอในหลักสูตรไทย
พอไปอ่านก็เจอ ทำให้รู้ว่า จริงๆแล้ว น่าจะเคยเรียนมาแล้วน่ะ
เพราะมันมีในคู่มือ มัธยมน่ะ แต่จำไม่ได้เอง

จน มีวันหนึ่งคุณครู ESL ชม.เรียนแกรมม่า ให้ทำแบบฝึกหัด
หาว่าข้อไหนคือรูปประโยคที่ถูก และอธิบายด้วยว่าทำไม
ในนั้น มีออกแนวแบบนี้ด้วย เลยมาหาเหตุผล คำตอบ จนจำได้ และพอเข้าใจนิดนึง
จากทีแรก ที่แค่รู้ว่าน่าจะเคยเรียน แต่จำอะไรไม่ได้เลยน่ะ
ตอนนี้พอเข้าใจบ้าง แต่ไม่ณุ้จะถ่ายทอดออกมาแบบงงๆ รึเปล่านะ

ตัวอย่างนะ ในประโยคที่ให้มา  มี Verb คือ avoid แต่จำประโยคไม่ได้นะ
ยกตัวอย่างง่ายๆ คิดเอง ไม่แน่ใจว่าถูกต้องไม๊ แต่พอเอาประเด็นได้อยู่น่ะ
เช่น a. I avoid to study.
b. I avoid studying .
อันไหนถูก a หรือ b  จริงๆ ประโยคยาวกว่านี้ และไม่ใช่แบบนี้เลย แต่มี avoid นี่แหละ
ละก็มี ตัวเลือกมากกว่านี้ แต่จำที่เด่นๆ ได้ คือ อันนึงใช้ to V1 และอันหนึ่งใช้ V.ing น่ะ

ตอนแรก ไม่รู้เรื่อง Gerund เลย
ถ้าดูรูปแบบประโยค ข้อ a  ตอนแรกดูไม่เห็นรู้ว่าข้อนี้ผิดตรงไหนน่ะ
 ระหว่าง Verb 2 ตัว ใช้ to คั่นกลาง
Verb หลัง to ก็ต้องเป็น Verb ช่อง 1 ไม่เปลี่ยนรูป  น่าจะถูกนะ

แต่ถ้ารู้จัก Gerund จะรู้ว่า ข้อ b คือ อันที่ถูก  เพราะ  Verb คำว่า avoid เป็นหนึ่งใน Verb ที่  Verb ตัวตามหลังต้องเป็น Gerund ( V.ing)

คุณครูบอกว่า ต้องจำอย่างเดียว ว่ามี Verbs อะไรบ้าง ที่ตัวตามหลังจะเป็น Gerund
ใช้ไปจำไป ศึกษาไปเพิ่มด้วย  เพราะมันมีเยอะน่ะ

อย่างเช่น Would you mind ที่พูดถึงในเรื่องที่แล้ว ที่บอกว่า ตามด้วย V.ing
mind ก็คือ Verb ที่แสดง ความรู้สึกน่ะ  หนึ่งใน Verb ที่พูดถึงในคำอธิบายของ Gerund
Verb ที่ตาม ก็ต้องตามด้วย V.ing ตามกฎ Gerundน่ะ
ถ้าเราไม่รู้ เราก็จะใช้ Would you mind to V.1 ไง ก็เหมือนจะถูก แกรมม่า ใช่ไม๊ล่ะ

เช่น Would you mind to open the window ? เหมือนจะถูกเนอะ ระหว่าง Verb 2ตัว เราคั่นกลางด้วย to Verb ตัวที่ 2 ไม่เปลี่ยนรูป

แต่ถ้ารู้เรื่อง Gerund จะรู้ว่าประโยคที่ถูกต้องกว่าคือ
Would you mind opening the window? น่ะ  อันนี้ลองถามคุณผู้ชายว่าปกติเธอใช้แบบไหน
เธอก็ตอบว่า ถ้าเป็นเธอจะใช้ Would you mind ตามด้วย V.ing แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม  รู้แต่ว่า ใช้แบบนี้



และจะมีบาง Verbsที่ ตามด้วย Gerund ก็ได้  
หรือ ตามด้วยVerb ช่อง1 ที่เรียกว่า infinitive with to ก็ได้
ได้แก่
begin
hate
love
like
prefer
remember
continue
start

และอื่นๆ อีก
ตัวอย่างประโยค

I prefer to travel in the summer .
และ I prefer traveling in the summer.

อันนี้ใช้ได้ ทั้งสองอย่าง ถือว่าถูกต้องเท่ากันทั้งสองประโยคจ้ะ


ถ้าเรารู้เรื่องนี้ เราก็จะเอาไปใช้ในคำพูดชีวิตประจำวันได้มากขึ้น เก๋ขึ้นนะ 
คือบางอัน ก็ใช้ได้ทั้งสองอย่าง  แต่ถ้าใช้ Gerund  รู้สึกมันเก๋กว่าน่ะ   

มันเหมือนเรารู้มากขึ้นน่ะ ว่าไม๊ 

และเวลาแต่งประโยคภาษาอังกฤษ เราจะใช้คำในประโยคได้ถูกต้องมากขึ้นน่ะ 




V+ing บางตัวก็ไม่ใช่ Gerund
จะรู้ได้ไงเหรอ ก็จากการจำรูปแบบ รูปประโยคมั๊ง
ไม่ได้เชี่ยวชาญเหมือนกัน
ยกตัวอย่างนะ  เช่น    I have a boring teacher.  ลอกมาจากเนทนะ คลิ๊กไปดูที่เค้าอธิบายเรื่องนี้ได้นะ 
ไม่ได้ตั้งใจว่าคุณครูนะ  ในตัวอย่างเค้ายกตัวอย่างประโยคนี้
V.ing ในประโยคนี้คือ adjective ขยาย อธิบายคำว่า teacher น่ะ



โอ๊ย พูดมาก  งงกันรึเปล่าน๊อ   อยากให้รู้จักน่ะ
คาดว่าหลายๆคน เรียนมาแล้วก็ปล่อยให้มันล่องลอยไปเหมือนเราแหละ อิอิ
แต่ถ้าใครอยู่นี่นานก็อาจรู้จักจาการใช้ในชีวิตจริงอยู่แล้วน่ะ


ถ้า ไม่อยากยุ่งยากก็ใช้ ประโยค Verb ธรรมดาๆ นี่แหละ  พอเอาตัวรอดได้เหมือนกัน

แต่บางคำก็เอาไปใช้ง่ายๆ จำไม่ยากนะ
อย่างเช่น  enjoy eating  จำคำนี้ที่เคยได้ยินคนไทยพูดบ่อยๆอยู่แแล้ว
แล้วก็จำไว้เลยว่า   enjoy อะไรก็ได้ ตามด้วย ing



I enjoy talking  about Ken .    





อันนี้ จากลิงค์ที่เอามาฝากนั่นแหละ
ฝรั่งเค้าก็ยังมีสับสนกันเลย
Many grammarians do not like to use the expression "gerund". That is because there is sometimes no clear difference between a gerund and a present participle.


เรื่อง V.ing ยังไม่หมดนะ 
มีV.บางตัวที่ตามด้วย to ไม่ตามด้วย  V.ing
หรืออาจใช้ได้ทั้ง 2อย่างแต่ความหมายเปลี่ยน เอาไว้ขึ้นหน้าใหม่ดีกว่าเนอะ 



ถ้ามีสะกดผิดตรงไหน บอกด้วยน๊า  วันนี้เขียนยาว อาจมีผิดน่ะ

Sunday, January 16, 2011

ภาษาอังกฤษ แบบมีหางเสียง

หรือ ภาษาอังกฤษวิเศษ (Magic English )
คุณครูคริสบอกไว้ว่า คุณจะดูดีขึ้นในสายตาของฝรั่ง ถ้าใช้ภาษาเหล่านี้ประจำ

1. Thank you.
เวลาฝรั่งทำอะไรให้ หรือให้อะไรทุกครั้ง
คนที่บ้านนี่ก็ติดคำว่าขอบคุณจัง  เราได้ยินก็รู้สึกดีน่ะ
บางทีก็เคยคิดนะ  คนไทยไม่เห็นพูดคำว่าขอบคุณบ่อยแบบนี้เลย

2. You 're welcome. หรือ That's alright.
เวลาที่เขา Thank you เรา
อันนี้เราก็รู้สึกนะ
คุณครูที่โรงเรียนพูดทุกครั้งเลย   เราได้ยินยังรู้สึกดีน่ะ
ว่า คุณครู พูด    You 're welcome ได้ทุกครั้งที่มีคนขอบคุณ    ดีจัง
พูดเสียงดังฟังชัด ทุกครั้งด้วย รู้สึกดีน่ะ

ฝรั่งบางคนก็ไม่ได้พูดประจำนะ

3. Excuse me . ขอโทษครับ /ค่ะ  เวลาจะเรียก
ดีกว่า Hey you!! มากๆ นะ
แล้วก็ใช้เวลาจะเดินผ่านคนอื่นในระยะใกล้  เดินในห้างนี่เจอประจำ
ฝรั่งนี่มารยาทดีกันจัง   คนไทยเดินห้าง ไหล่กระทบกันเป็นเรื่องปกติน่ะ


ที่นี่เด็กตัวเล็กๆ พอพูดได้นี่พ่อแม่ก็สอนให้พูด Excuse me จนชินกัน  น่ารักดี
เวลาไปห้างนี่ เด็กตัวเล็กๆจะเดินผ่านเรานี่ พูด Excuse me ma'am. 
โดยไม่มีพ่อแม่อยู่ใกล้ๆนะ  เด็กๆ พูดเองเลย

โอ๊ย  น่ารักจัง ตัวเล็กๆ ก็ขอโทษก่อนเดินผ่าน
(ที่รู้สึกน่ารักมากๆ เพราะเด็กตัวเล็กๆ ยังเด็กมากๆน่ะ แต่มีมารยาทแล้ว  ชอบจัง)
เป็นมารยาทที่เค้าสอนกันให้ทำแบบจริงจังมากน่ะ
เด็กไทยไม่มีแบบนี้หรอก ไม่เคยเห็นน่ะ

4. Pardon. เวลาไม่ได้ยิน
อย่าใช้ว่า"What?"

5. Sorry. เวลาเราทำอะไรผิดหรือไม่ดีกับเค้า
และ ถ้าใคร Sorry มาก็ตอบรับไปด้วย   That's alright.
เพราะถ้าไม่ตอบรับก็เหมือนไม่รับคำขอโทษน่ะ
ดูดีกว่ายิ้มตอบแบบอย่างเดียว แบบที่คนไทยทั่วไปชอบทำน่ะ
เราเองก็หนึ่งในนั้นแหละ อิอิ  คิดอะไรไม่ออกก็ยิ้มไว้ก่อน

That's alright นะ ไม่ใช่ ตกคำตรงกลางไป กลายเป็น That's right
ก็จะกลายเป็น  เวลามีคนพูดว่า   "ขอโทษครับ" ก็จะเป็นเราตอบไป "ถูกต้องแล้วค๊า "

อีกอย่างหนึ่ง คุณครูคริสบอกอีกแหละว่า
เค้าขอโทษมา อย่าไปตอบว่า You 're welcome น่ะ มันไม่ใช่อารมณ์ยินดีน่ะ
เช่น ฝรั่งเหยีบเท้าเรา   I 'm sorry เราก็นี่เลย  You 're welcome ยินดีค่ะ
ประมาณว่า เหยียบอีกก็ได้ค่ะ  

ให้ใช้ว่า That's alright  หรือ It's okay จ๊า

6. Could.................,please? 
เวลาจะขออะไร


7. Congratulations. หรือ  Good luck.
เวลาอวยพร
ฝรั่งนี่จะอวยพรกัน ดีดี๊นะ  ดูน่ารักดีจริงๆ

8. I'm sorry to hear that.............
เวลาแสดงความเสียใจ

9. How was your ........( trip, weekend, meal , flight ......  )? 
เวลาถามว่าสิ่งนั้นเป็นยังไง  เป็นการเริ่มต้น คุย แบบง่ายๆ ทั่วๆไป ตามหลังทักทายกันแล้วน่ะ   เหมือน ประโยคเสริมย่อย ของการทักทายน่ะ

10. Have a nice.....................( trip, weekend, meal , flight ......  )
อันนี้ก็อวยพร ก่อนจากกัน ฝรั่งนี่ ติดอวยพรกันจริงๆนะ
รู้สึกว่ามีมารยาทกันจริงๆแหละ เวลาใช้คำเหล่านี้น่ะ


11. Drive safely. ขับรถดีๆนะ ถ้าร่ำลากันแล้วฝรั่งต้องขับรถ

12. Would you like .......? และ  I would like........
แทน "Do you want .......? " และ  "I  want...................."
เวลาพูดถึงความอยาก  พูดไปแล้วนี่รู้สึกเรามีมารยาทขึ้นมาเลยนะ


13. Just a moment please. เวลาที่จะให้เขารอ
และ Sorry to keep you waiting. เมื่อทำให้เขาต้องรอเรานาน

เราติดว่า Few minute / Wait a minute ,please. ใช้กับคุณผู้ชายตลอด
อิอิ  ถึงแม้ว่าจะให้เธอรอ ชม. , ครึ่งชม.ก็ few minute , few minute  แต่หลายฟิวน่ะ  

ส่วนใหญ่ติดอยู่หน้าจอเนทไง จะไปข้างนอก ไม่ได้ไปซักที


14. Cheers, Bottom up. เวลาชนแก้วแล้วบอกให้ดื่มให้หมด

แล้วเวลาฝรั่งยกแก้ว บอกว่า Hip Hip ก็ให้ ตอบต่อว่า ฮูเร่ Hooray นะ   Hip Hip Hooray!!!!!
ไม่ใช่ hip hip hop น๊า


15. Take a seat please.  แทนคำว่า  Sit down! อันนี้เอาไว้สั่ง หมาแมวที่บ้านน่ะ

มีคำอื่นๆในภาษาอังกฤษอีกเยอะแยะมากมายที่จะช่วยให้เราดูดีขึ้น ถ้าพูดออกไป

ที่เขียนนี้ เอามาจาก ตัวอย่างภาษาอังกฤษที่พูดออกไปแล้วช่วยให้เราดูดีขึ้น
จากหนังสือ คุณครูคริส : สไตล์ครูเด็กแนวจ้ะ
เล่มที่อ่านนี่พิมพ์ครั้งที่ 17 แน่ะ  แสดงว่าขายดีจริงๆ
ใครสนใจไปที่ซีเอ็ดจ้ะ

Saturday, January 15, 2011

ก๋วยจั๊บอีกละ


วันนี้อยากกินน้ำร้อนๆ
มีเส้นก๋วยจั๊บเหลือ
ทำให้หมดก่อนย้ายบ้านละกัน


เป็นก๋วยจั๊บก๋วยจั๊บ ไร้เครื่องในอีกละ
ก๋วยจั๊บกระดูกหมูน่ะ
ขี้เกียจหาเครื่องมาใส่เยอะๆ กลัวกินไม่หมด


เติมน้ำส้มไปเยอะ ให้ล้างท้อง เลยออกเปรี้ยวหน่อย
กลัวคุณผู้ชายกินไม่เป็นเลยใส่น้ำแค่เนี๊ยะแหละ

เธอบอก  ชอบๆๆๆ ชอบไข่น่ะ




คุณผู้ชายแทะกระดูกได้เกลี้ยงมากๆ
ถือว่าต้มกระดูกหมูให้กินละกัน




Friday, January 14, 2011

Make requests

ขอร้อง ขออนุญาต ขอความช่วยเหลือ

ขอร้อง 
Could you + V1, please?
Can you + V1, please? 
Would you mind +  Ving ?


Would you mind turning down the radio for me? 

หลายๆคนรู้แล้วแหละ เนอะ Cloud และ Would สุภาพกว่า Can
Can ใช้กับคนที่เราสนิท

ขอรบกวน ขอยืม ขออนุญาต


Could I ..............,please? 
Can I .................,please ?
May I ...................,please?

Do you mind if I ..........?
Would you mind if I ........?

Do you mind if I turn up the heather(ตรงขีดเส้นใต้ ก็เปลี่ยนเป็นคำอื่น ตามความต้องการ)


Would you mind และ Do you mind ไม่ต้องลงท้ายด้วย please เพราะคำว่า mind ให้ความรู้สึกว่าสุภาพอยู่แล้ว

หลายๆคนที่ไทย รวมทั้งตัวเราสมัยแต่ก่อนด้วย
(แม้กระทั่งทุกวันนี้บางที ยังติดคำเดิมอยู่เลย)
จะคิดว่า ปิด เปิดไฟ คือ close , open ตรงตัว
คุณผู้ชายก็จะหวังดี บอกคำที่ถูกทุกที ทั้งๆที่ก็รู้ว่าบอกเราหลายทีแล้ว แต่เราไม่ยอมพูดให้ถูกเอง

จริงๆแล้วต้องพูดว่า  Turn on the light และ Turn off the light 


อีกคำที่ เราเองทุกวันนี้ก็พูดมั่วตลอด คือรู้แต่ไม่ชินที่จะใช้คำที่ถูกน่ะ
หรี่ วิทยุ ใช้มั่วไปเรื่อยตลอดเวลาจะให้คุณผู้ชายหรี่วิทยุ หรือโทรทัศน์
ที่สำคัญคือต้องทำท่าประกอบทุกครั้ง
ทำ หมุนซ้าย หมุน ขวา ละก็ทำท่า ขึ้นลงทุกครั้ง
เฮ้อ  กว่าคุณผู้ชายจะเข้าใจ หมุนให้ เมื่อยมือเลย

ทั้งๆที่คำที่ถูกต้องง่ายๆ แต่มันไม่ชินที่จะพูดน่ะ  ติดมั่วเหมือนเดิม 
Turn down และ Turn up


Would you mind turning your radio down a little?


ใช้กับการหรี่เสียง วิทยุ โทรทัศน์ หรือ เครื่องปรับอากาศ พัดลม ก็ได้
ความหมายคือ ลดลง หรือเพิ่มขึ้น
ถ้ามีคนถามว่า Do you mind หรือ Would you mind ขอเราทำอะไร ซักอย่าง
ก็อย่าไปสับสนไปตอบ Yes, of course นะ เพราะเข้าใจว่า คือ ยินดีอย่างยิ่ง ทำไปเลยนะ
เพราะในคำถามนี้ ถ้าตอบแบบนี้จะหมายถึง
แน่นอน I mind แน่ๆ
คำตอบรับประโยคนี้ จริงๆคือ No, I don't mind หมายถึง ทำไปเล๊ย เราไม่ว่าไรหรอก  ประมาณนี้น่ะ

แต่ ถ้าจะปฏิเสธ ก็ปฏิเสธไปแบบสุภาพ I 'am sorry แล้วก็บอกเหตุผลไป

เล่าเรื่องตัวเองอีก
เนื่องจาก ตรง เครื่องซักผ้าในที่พักน่ะ   จะมี ตะแกรง ชั้นวางของ ข้างบน (shelf )สูงมาก
คุณผู้ชายชอบเอา พวกผงซักฟอก น้ำยาต่างๆไปวางบนนั้น


เราก็จับไม่ถึง  กล่องผงซักฟอกมันใหญ่ด้วยน่ะ  ถ้าเราหยิบเอง
อาจมีอาการกล่อง หงายหลัง ผงซักฟอกกระจายได้
เลยต้องใช้ประโยคนี้ บ่อยมาก


Can you get the detergent for me, please ?  I cannot reach it.
 (ตรงขีดเส้นใต้ ก็เปลี่ยนเป็นคำอื่น ตามความต้องการ เบื่อมาก  อยู่กับคนตัวโตเนี่ยะ )
เธอไม่เบื่อ รึไง เอาไปวางสูงๆ แล้วก็เดือดร้อนเธออยู่ดี
เฮ้อ

cannot  ในความหมายว่า ทำไม่ได้เนี่ยะ ให้เขียนว่า cannot จะไม่ เขียนว่า can not 
เพราะอะไร เดี๋ยวขอหาคำอธิบายก่อนนะ




อีกประโยค เผื่อเอาไปใช้ พูดกับเพื่อนง่ายๆ
ให้หยิบของที่วางใกล้เค้าให้เราหน่อย
Can you pass the book to me, please ? 
(ตรงขีดเส้นใต้ ก็เปลี่ยนเป็นคำอื่น ตามความต้องการ)

Thursday, January 13, 2011

วันง่ายๆจ้ะ

จริงๆอยากตั้งชื่อว่า วันเบาๆ   อินไปกะเพลง ที่ขึ้นชาร์ทที่กรุงเทพน่ะ
แต่มันเป็นเรื่องของวันง่ายๆ 7วันใน หนึ่งอาทิตย์น่ะ

เรื่องของเรื่องคือ วันที่เขียน Emailไปบอกคุณครูว่าจะกลับไปเรียนนี่
จะบอกว่า จะไปสอบ pre test ในวัน พุธ หรือถ้ายังมีหิมะก็เลื่อนเป็นวัน พฤหัส
แต่ไม่แน่ใจน่ะว่า เขียนยังไง
ดูสิ วัน ง่ายๆ ในหนึ่งอาทิตย์ มีเจ็ดวันเท่าเดิมตลอด ตั้งแต่ เรียนตอน ป.5
ป่านนี้ยังเขียนแบบถูกต้องเป๊ะได้ไม่ครบเลย  ทั้งๆที่มันก็มีอยู่แค่ เจ็ดวันเหมือนเดิม
วันนี้หลังสอบเสร็จระหว่างรอคุณผู้ชายมารับที่ห้องสมุด
ก็เลยนั่งหัดเขียนวันในหนึ่งสัปดาห์ ให้ครบและถูกต้องด้วย

ตอนนี้คิดว่าจำได้แล้วนะ
มาดูกัน วันง่ายๆ ที่หลายๆคนอาจยังสะกดไม่ถูก

Sunday
Monday
Tuesday อันนี้ทีแรกก็สับสน ตัว u กับ e วันนี้จำได้แล้วล่ะ
Wednesday   อันนี้พึ่งสังเกต ว่าถ้าท่องว่า Wed- nes- day แล้วเราจะเขียนถูก แต่เวลาอ่าน ไม่ออกเสียง e หลัง n น่ะ
Thursday  อันนี้ ทีแรก ไม่แน่ใจนะ วันนี้จำได้ละ
Friday
Saturday  อันนี้ก็ไม่แน่ใจ ตรง u สับสนว่า เขียน e หรือ u ดี  วันนี้จะจำไปจนตายละ

ทุกคนคงรู้จักกันหมดล่ะ  แต่เขียนถูกไม๊ อีกเรื่องหนึ่งเนอะ
พูดถูกก็สื่อสารได้แล้ว  แต่เขียนถูกด้วยก็เป็นกำไรนะ

คำที่แสดงถึงวันต่างๆ ถือว่า เป็นนามเฉพาะ proper noun ต้องขึ้นต้นด้วยตัวอักษร ตัวใหญ่ เสมอนะจ้ะ
รวมทั้งวันพิเศษ ต่างๆด้วย
ยกตัวอย่างประโยคนะ

อันนี้ ยังไม่ถูก Americans celebrate independence day on july 4.

ประโยคนี้แก้ให้ถูกต้องเป็น  Americans celebrate Independence Day on July 4 .


วันขอบคุณพระเจ้า Thanksgiving Day 

วันสงกรานต์  Songkran Day 


แบบฝึกหัด หัดทำ ไม่กี่ข้อง่ายๆ คลิ๊กดูได้


พูดเรื่องวันต่างๆ ก็มีเรื่อง โก๊ะ ๆ มาเล่าอีกล่ะ

ตอนมาที่นี่ ใหม่ ๆ   สังเกต เห็น บางร้าน มีป้าย ตัวใหญ่  ๆ เขียนว่า Drive thru
ตอนนั้น ยัง ใหม่มาก สำหรับที่นี่น่ะ
เข้าใจ ว่า thru นี่ย่อมาจาก Thursday
ถ้าวัน พฤหัสบดี ใช้บริการแบบ รถขับเข้าไปได้เลย

งงมาก  ทำไม ต้องใช้ บริการพิเศษได้วันเดียว
(คิดได้ไงเนี่ยะ)

ถามคุณผู้ชายตอนนั้นก็ยังคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่องน่ะ
ก็รู้แต่ว่า รถขับเข้าไปได้เลย
แต่ทำไม ต้องเป็นแค่วันเดียวเดียวนี่สิ งง

แล้ววันอื่น รถไปจอดไหนเหรอ ไม่ให้รถเข้าไปเหรอ   อิอิ  มีใครคิดได้แบบนี้บ้างเนี่ยะ

จนอยู่ไปอยู่มา   เอ  มีแทบทุกร้านเลยแฮะ ไอ้ขับรถเข้าไปได้วันเดียวเนี่ย
ทำไมต้องขึ้นป้ายอวดกันด้วย ว่าขับเข้าได้วันเดียว
แต่จริงๆก็ขับเข้าไปได้ทุกวันนี่นา
ตอนหลังพยายามหาเหตุผลที่ถูกต้องให้ใหม่

อ๋อ ... มันน่าจะมาจาก  drive-through มากว่าน่ะ อิอิ 
บริการแบบรถขับเข้าไปใช้บริการได้เลยน่ะ อิอิ มาจากบ้านนอกจริงๆเลยเรา 


ปล. ถ้ามีสะกด ตรงไหนผิด ช่วย บอกด้วยน๊า  อาจมีพิมพ์ผิดได้ 

อยากได้แบบนี้น่ะ

มีใครรู้บ้างว่า ชมพูๆ  ที่เห็น ประดับรถแบบในรูป นี่ สั่งซื้อ web ไหนจากเมกามีได้มั่งเนี่ย 
ไม่มีแน่ๆเลย 

อยากได้น่ะ 

จะให้เพื่อนส่งมาจากไทย ก็เสียดายค่าส่งน่ะ 

รึว่าให้ส่งมาดีเนี่ยะ

เกรงใจเพื่อนด้วยไง  ต้องไปเดิน หาซื้อให้ 
ถ้าสั่งตามwebได้ก็ดีสิ

อยากได้ๆๆๆๆๆ

Monday, January 10, 2011

หิมะมาอีกแล๊ว เย๊ !!!!!! ปะ ไปเดินเล่นกัน






ไปเดินเล่น  ท่ามกลางหิมะ ตกปรอยๆ เหมือนในหนัง กวน มึน โฮเลย  

แต่ เป็น กวน มึน โห...แก่อ่ะ 














กลับมาถึงห้อง ตึงๆหน้า รีบไปส่องกระจก มันเป็นปื้นแดงๆ 
หนาวมากน่ะ เลยขึ้น ครั้งที่แล้วก็ขึ้น
ไปกินข้าวต้มร้อนๆดีก่า

Saturday, January 8, 2011

วันนี้มาคุยเกี่ยวกับศัพท์ ศาสนา , เชื้อชาติ และ สัญชาติ

เราเองนับถือ พุทธ
เวลาคุยกัยคนที่บ้าน ว่าจะไปวัดน๊า
(ตอนอยู่ไทยน่ะ)
เค้าถามว่าไปทำอะไร
เอ บอกว่าไปทำอะไรดีล่ะ
พูดไม่เป็นน่ะ

ตอนนี้รู้ละ 

คำว่าไหว้พระ ใช้คำว่า Pay respects to Buddha.
ไม่ใช่ pray น๊า pray แปลว่า สวดมนต์

ถ้าจะไปทำบุญ make merit (เมะริทนะ ไม่ใช่เมอริท )

ตักบาตรสังฆทาน Give food to the monks.

หรือ Give alms to the monks.

alms แปลว่า ของกินที่เอาไปทำบุญกับพระ หรือคนยากจน
ออกเสียง อามส ฟังแล้ว จะเหมือนคำว่าแขน (arm)เลย
เวลาได้ยินก็คิดตามประโยคที่ได้ยิน ว่าน่าจะคือ อามไหน


นั่งสมาธิ (เราไม่เคยรู้เลย พึ่งรู้นี่แหละ ) meditate (เมะดิเทท) จ๊า
ทุกทีเวลาพูดกับคุณผู้ชาย ไม่เคยรู้อ่ะ ไม่เปิดดิคด้วยขี้เกียจ
ทำท่าให้ดูเลย

ศาสนาพุทธ  =  Buddhism
ศาสดา = Buddha
นับถือพุทธ =  Buddhist
ศาสนา= religion

ทั้งหมดนี่ 
เอามากหนังสือครูคริสที่สอนไว้จ้ะ
หิ้วมาจากไทยเลย
อ๊อ พูดเกี่ยวกับศาสนาไปแล้วหนึ่งคำ เจดีย์ จำได้หรือเปล่า
พะโกดา ชอบน่ะ คำนี้ น่ารักดี
เราชอบอ่านตรงตัวน่ะ จำง่ายดี จะได้เขียนถูกตรงตัวจ้ะ
แต่ครูคริสให้ออกเสียงออกเสียงตัวสุดท้าย ออก เ-่ อ น่ะ
พะโกเดอ  pagoda   จะได้เหมือนฝรั่งพูดหน่อยเดี๋ยวจะเสียชื่อว่ามาอยู่กับ native English ทั้งที อิอิ


เชื้อชาติ  ( Race ) การสืบเชื้อสายทางพันธุกรรม
สัญชาติ ( Nationality ) เป็นไปตามแผ่นดินเกิด หรือ ย้ายไปอยู่ในแผ่นดินใดนานๆ แล้วขอเปลี่ยนสัญชาติตามแผ่นดินที่อยู่

ประโคง่ายๆเอาไปถาม กิ๊ก
What is your nationality? เชื้อชาติอะไร
I am Thai

Where are you from? มาจากไหน
I am from  Thailand.


What is your religion? ศาสนาอะไร 
I am Buddhist.

Thursday, January 6, 2011

ดาวนับล้านที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า จะมีไหมน๊าที่ลอยอยู่เองเฉยๆ

   คิดถึงเมืองไทยจัง
อยากกลับไปดูดาวที่ดอยอ่างขางน่ะ 
อยากไปขึ้นรถไฟฟ้าที่กรุงเทพด้วย   เผื่อเจอแบบพี่เคน บนรถไฟฟ้า บ้าง อิอิ




ดาวนับล้านที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า



จะมีไหมนาที่ลอยอยู่เองเฉยๆ
ไม่ยอมโคจรหมุนไปไหนเลย
ไม่เคย ไม่เห็นเลยสักดวง

ดาวของฉันเธอว่าห่างไกลลิบๆ



แต่ดาวไหนๆมันก็อยู่ไกลกันทั้งนั้น
ดาวของเธอฉันว่าก็เหมือนกัน
กี่ปีแสงนั้นอย่านับเลย

* เมื่อดาวโคจรมาเจอะกัน



ฤดูก็เปลี่ยนผัน การหมุนก็ผันแปร
เมื่อเธอกับฉันมาเจอะกัน ชีวิตก็เปลี่ยนผัน
เปลี่ยนไปจากเดิม เปลี่ยนจังหวะหมุนของหัวใจ (ให้ใกล้กัน)

** (เกิดอาการ)เธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ



แต่สองดาวก็ยังหมุนรอบตัวเอง
เธอดึงดูดฉัน ฉันดึงดูดเธอ
และสองดาวยังเปล่งแสงอันงดงามให้แก่กัน(ไปทั่วฟ้า)

ดาวนับแสนที่มีวงแหวนนับร้อย



ทั้งดาวเคราะห์น้อย ดาวฤกษ์ลอยคว้างๆ
ดาวทุกดวงนั้นย่อมจะแตกต่าง
มีเส้นทางหมุนของตัวเอง




ดูแล้ว ตกหลุมรักเคนอย่างแรงเลย

Wednesday, January 5, 2011

ควันหลง Gift cards คริสต์มาส

ที่นี่เทศกาลต่างๆ ชอบให้ของขวัญ เป็น gift card กันเนอะ ดีจัง 
เราไปเลือกของเองได้ตามใจเรา    


เมื่อวานได้รับพัสดุ จาก LL Bean 
ใช้ gift cards สั่ง on line ไปน่ะ
ดีใจ ใส่เลย เดี๋ยวจะไม่รู้ว่าเห่อ หุหุ
เลือกไซส์ไม่ถูก มันมี M สำหรับผู้หญิงร่างเล็ก, ธรรมดา, ใหญ่  ประมาณนี้มั๊ง 
(ไม่ได้เปิดดิคน่ะ เดาเอาเอง  ไม่รู้จักศัพท์น่ะ  )
เลือกมา M ธรรมดา ตัวใหญ่มาก  $69 ถ้าเป็นเงินตัวเอง ไม่ซื้อหรอก เสียดายตังค์
แอ๊บแบ๊ว ท่าประจำ 


ตัวใหญ่มาก 




สีมพูนี่ก็ชอบ
เรียกเหมือน ที่ไทยเรียกกันเลย 
Turtleneck = คอเต่า  
ตัวนี้ $15 ถูกสุดในแคตตาล็อคแล้วน่ะ ก็เลยสั่ง 
ไม่เคยมีเสื้อคอแบบนี้เลย รำคาญตรงคอน่ะ
แต่ตัวนี้ใส่แล้วไม่รำคาญเลย  ชอบนะ อุ่นดี





กระเป๋าสะพาย ใหญ่มาก ตอนสั่งคิดว่าจะใบเล็กกว่านี้ 


เอาไว้ใส่สมบัติ สะพายขึ้นเครื่องเวลาเดินทาง   
ครั้งที่แล้ว กระเป๋า นี่รูดซิปไมไ่ด้เลย สมบัติเยอะอ่ะ
เลือกแบบนี้ เพราะเผื่อคุณผู้ชายใช้ด้วย



ยังได้ของไม่หมด เหลือกระเป๋ามีล้อเลื่อน หมดสต๊อค 
ต้องรอเดือนหน้า   
ต้องแจ้งเปลี่ยนที่อยู่ไปด้วยล่ะ  เพราะจะไม่อยู่ที่เดิมแล๊ว



ทั้งหมดนี้ไม่ต้องจ่ายจ๊า  ถ้าจ่ายเองไม่เคยซื้อของทีเดียวเยอะขนาดนี้หรอก
ไม่มีรายได้  ใช้จ่ายอะไร ต้องคิดเยอะหน่อย  
แล้วก็จ่ายทุกที อ้าว 
 

Tuesday, January 4, 2011

หัดเรียนภาษาอังกฤษจากเพลง

เคยเอามาลงแล้วครั้งหนึ่ง
วันนี้ว่างๆ ขอเอามาพูดถึงอีก

วิธีหนึ่งที่จะทบทวนภาษาอังกฤษได้ ก็คือจากฟังเพลงที่เราชอบ
ดูเนื้อหาไปด้วย  ร้องไปด้วย ได้ฝึกภาษาไปด้วย  มีความสุข  ได้ความรู้ 



ลองดูเนื้อหานะ เข้าใจได้ง่ายมาก  เอาไว้บอกรักกิ๊ก  
I'll love you till I die
Deep as sea
Wide as sky



ฉันจะรักเธอไปจนตาย
ควารักของฉัน ลึกเท่ากับท้องทะเล
กว้างเท่ากับท้องฟ้า
โหย ยิ่งใหญ่มาก  กิ๊กได้ยินหลงหัวปักหัวปำเลย 

เพลง : Love paradise
ศิลปิน : kelly chen
เนื้อเพลง :

You're always on my mind
All day just all the time
You're everything to me
Brightest star to let me see
You touch me in my dreams
We kiss in every scene
I pray to be with you through rain and shiny days
I'll love you till I die
Deep as sea
Wide as sky
The beauty of our love paints rainbows
Everywhere we go
Need you all my life
You're my hope
You're my pride
In your arms I find my heaven
In your eyes my sea and sky
May life be our love paradise
You're always on my mind
All day just all the time
You're everything to me
Brightest star to let me see
You touch me in my dreams
We kiss in every scene
I pray to be with you through rain and shiny days
I'll love you till I die
Deep as sea
Wide as sky
The beauty of our love paints rainbows
Everywhere we go
Need you all my life
You're my hope
You're my pride
In your arms I find my heaven
In your eyes my sea and sky
May life be our love paradise
I'll love you till I die
Deep as sea
Wide as sky
The beauty of our love paints rainbows
Everywhere we go
Need you all my life
You're my hope
You're my pride
In your arms I find my heaven
In your eyes my sea and sky
May life be our love paradise



  





heaven 
= สวรรค์
                                                paradise     
= ดินแดนสุขาวดี;สวรรค์     

pride (n)
= ความภูมิใจ

(v) ภูมิใจ

โอนเงินจากอเมริกาไปไทย โดยใช้บริการ MoneyGram หรือทางไหนดี

ส่งเงินจากอเมริกา ไปไทย ที่ไหน ทางไหนเรทดี ? คนมาอยู่อเมริกาคงมีคำถามนี้กันเนาะ วันนี้ยกตัวอย่างบางช่องทางนะคะ เราถนัด MoneyGram เพราะสะ...