รีสอร์ทในฝัน

มาดูบรรยากาศกันเลยว่าสมกับชื่อไม๊

เหมือนอยู่เมืองเหนือเลย

แต่จริงๆแล้วอยู่ภาคใต้นะเนี่ยะ

ชีวิตเรื่อยเปื่อย2

ไม่มีอะไรทำค่ะ ไปขับรถเล่นอีกละ

หาที่งามๆถ่ายรูปๆๆ

ติวอีกรอบก่อนเดินทาง

คัดลอกข้อมูลมาจากที่เคยแนะนำไป

แพรติวตัวเองก่อนเดินทาง

Terminal อาคารผู้โดยสาร
Departures บริเวณสำหรับผู้โดยสารขาออก
Arrivals บริเวณสำหรับผู้โดยสารขาเข้า
Check-in counter เคาน์เตอร์ที่เราจะไปแสดงตัวน่ะจ้ะ

เมื่อไปถึงเช็คอินเคาน์เตอร์ แสดงตั๋วเครื่องบินและพาสปอร์ตกับ จนท. พร้อมส่งกระเป๋าขึ้นเครื่อง
พอเช็คอินเสร็็จ จนท.ก็จะส่ง Boarding passหรือบัตรแสดงหมายเลขที่นั่งให้กับเรา
สิ่งที่ควรทำตอนเช็คอินที่ต้นทาง ถ้าไม่ได้บินตรง ถามจนท.เช็คอินว่ากระเป๋าของเราจะจัดส่งไปจนถึงปลายทางเลยไม๊


จะมีหมายเลขเที่ยวบิน Flight number
หมายเลขประตูขึ้นเครื่อง Gate number
เวลาที่ผู้โดยสารต้องขึ้นเครื่อง Boarding time
เดินทางมาจากไหน From
ไปไหน To
และเวลาเครื่องบินออก Departure time ในใบนี้ค่ะ

ตัวอย่างค่ะ ( พี่อ้ายอธิบายไว้ละเอียดมากค่ะ ) [url]http://www.usvisa4thai.com/board/viewtopic.php?f=4&t=19330[/url]

Boarding pass บัตรแสดงหมายเลขที่นั่ง( Seat number )


ในกรณีที่ต้องต่อเครื่อง Boarding pass ที่จะได้รับอาจได้รับไม่เหมือนกัน    

แบบที่ 1 ได้ Boarding pass ครบทุกใบ คือ ครบตามจำนวน Flight ที่เราจะต้องเดินทางทั้งหมด และ รายละเอียดครบถ้วน ถือว่าดีมากค่ะ ไม่ต้องไปหา Gate number เอาข้างหน้า

แบบที่ 2 ได้ Boarding pass ครบ แต่รายละเอียดไม่ครบ คือไม่ระบุ Gate ค่ะ เราต้องไปดูที่จอแสดงรายละเอียดของเที่ยวบิน เพื่อดูว่า Flight ของเราไปขึ้นที่ Gate ไหน เมื่อเราไปถึงสนามบิน ที่ต้องต่อเครื่องค่ะ

แบบที่ 3 ได้มาใบเดียวค่ะ เป็นใบเริ่มต้น ที่ สนามบินที่เมืองไทย เพราะฉะนั้น ช่วงต่อเครื่องต้องไป เช็คอินที่ เคาเตอร์สายการบินต่อไปน่ะค่ะ เพื่อให้ออกใบ Boarding passใบต่อไป

แพร( และคาดว่าโดยส่วนใหญ่ ) ได้เป็นแบบที่ 2 ค่ะ มี ใบ Boarding pass ครบ ตามจำนวน Flight แต่จะทราบ Gate แค่ที่ สนามบินที่ไทย อันเดียว ที่เหลือ ไปดูจาก สนามบินต่อไปที่จะเปลี่ยนเครื่องค่ะ


Aisle seat ที่นั่งติดทางเดิน
Window seat ที่นังติดหน้าต่าง

ตอนเช็คอินจะได้รับแบบฟอร์ม 2 ใบ
บัตรผู้โดยสารขาออก Departure card
และบัตรผู้โดยสารขาเข้า Arrival card

Departure cardสำหรับส่งให้ จนท.งที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ตรง Passport control
Arrival card ส่งให้ จนท.ตอนกลับเข้าไทย

ยังไม่ต้องกรอกตรงนั้นก็ได้
แต่ต้องกรอกก่อนเข้าตรวจ พาสปอร์ตก่อจจะเข้าไปด้านในเพื่อขึ้นเครื่อง
กรอกไม่ยากเลย
แค่ชื่อที่อยู่ ไฟล์ท  (บรรทัดแรกจะเป็นนามสกุลก่อน แล้วบรรทัดต่อมาเป็นชื่อ )
กรอกด้วยภาษาอังกฤษ และลงลายเซ็นเรา
ถ้าปกติเซ็นไทยก็ลงลายเซ็นไทยไป



Immigration ด่านตรวจคนเข้าเมือง

Passport control จุดตรวจเอกสารของผู้เดินทาง

Take off เครื่องบิน ออก

Landing เครื่องบินลงจอด

Landed เครื่องลงแล้ว

Delayed เครื่องบินออกช้า หรือถึงช้า

Confirmed มาตามเวลาแน่ๆ

International flight เที่ยวบินระหว่างประเทศ

Customs Declaration ใบแจ้งด่านศุลกากร

Fasten seat belt กรุณาคาดเข็มขัดนิรภัย

Destination จุดหมายปลายทาง


[b] [u] ป้ายที่จะเจอเมื่อแวะ เปลี่ยนเครื่องบิน[/u] [/b]

Internatuional Connecting Flight สำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทางเพื่อต่อไปสายการบินระหว่างประเทศ
Transit passengers ผู้โดยสารที่ต้องเปลี่ยนเครื่อง
Transit การเปลี่ยนเครื่องบิน
Transfer ต่อเครื่องบินโดยสาร

พอลงจากเครื่องบิน เดินตามป้ายไปเรื่อยๆ จนเจอคำว่า Transit area บริเวณ สำหรับ ผู้โดยสารที่ต้องเปลี่ยนเครื่องบิน หรือ Connecting Flight


เปลี่ยนเครื่องแล้ว มาถึงแล้ว ป้ายต่อไป


Arrivals ผู้โดยสารขาเข้า


Baggage claim บริเวณ รับกระเป๋าเดินทาง


Customs ด่านศุลกากร


Lost and found จุดบริการเกี่ยวกับของสูญหาย

สำหรับเพื่อนๆที่ยังไม่มีประสบการณ์การเดินทาง และต้องต่อเครื่อง

เวลาหาซื้อตั๋วเครื่องบิน   เวลาในช่วงต่อเครื่องที่เราต้องมีการผ่านการตรวจคนเข้าเมือง
ขอเวลาต่อเครื่องมากหน่อยก็ดีนะ 
เรามีเวลา ช่วงต่อเครื่องที่ ดีทอร์อย 3 ชั่วโมง
แต่ต้องรอการตรวจคนเข้าเมืองนานมาก เพราะคนเยอะ
พอตรวจเสร็จ รีบมาก   เดินทางไปกับแฟน  ก็ยังลุ้นไม่สบายใจเลย
 ช่วงต่อแถวดูแต่นาฬิกา ว่าจะตกเครื่องไม๊
คาดว่าทุกที่ก็จะเจอปัญหาคนเยอะและต้องรอต่อแถวเหมือนๆกัน
ถ้าที่นี่รอไม่นานก็โชคดีไป 

เราทั้ง 2 คนทำทุกอย่างเร็วมาก   หลังจากตรวจเสร็จ ทั้งเก็บของที่เอาออกมาสแกนใส่กระเป๋าคืน ใส่รองเท้า ใส่เข็มขัด ลากกระเป๋า ไปส่งต่อ

ถ้าไปคนเดียว แล้วมีเวลาช่วงต่อเครื่องเยอะๆ ( โดยเฉพาะ ที่ต้องผ่านด่าน ตม. ) เราจะได้ทำทุกอย่าง ไปอย่าง มั่นใจว่าเวลาทันแน่ๆน่ะค่ะ ไม่ต้องใจตุ้มๆต่อมๆ แค่ตื่นเต้นกับการเดินทางคนเดียวก็พอแล้วค่ะ เอาใจช่วยทุกคนที่ต้องเดินทางคนเดียวค่ะ :)>-

พี่พิม แนะนำ Web คำศัพท์ เกี่ยวกับการเดินทาง ดีมากๆเลยค่ะ ลองไปศึกาาเพิ่มนะคะ สำหรับคนที่ไม่เคยเดินทางและไม่ชำนาญภาษาอย่างแพรค่ะ  http://www.speakenglish.co.uk/phrases/travelling_by_air?lang=th
อีก Link ค่ะ   http://thai.langhub.com/content/view/171/44/lang,en/

กะเพราไก่ไข่ดาวเว่อร์ชั่นอาหารจานง่าย

มาดูกะเพราไก่เว่อร์ชั่น ง๊าย ง่ายกัน

เริ่มต้น ไม่ต้องลงทุนปลูกกะเพราะ เพราะที่นี่ไม่มีน่ะ ไม่เคยเห็น

ได้อันนี้มาจากร้านอาหารเอเชีย
กระปุกละ ประมาณ $2


ผัดไก่ไปก่อน ไก่สุกก็ใส่ลงไป ข้างกระปุกให้ใส่ 2-3 ช้อน
แต่ใส่ช้อนเดียว กลัวหมดเร็ว อิอิ
ไม่อยากกินชูรสเยอะด้วยแหละ กินทีละนิดจะได้เสียชีวิตช้าลงนิดนึง อิอิ
เติมเครื่องปรุงเพิ่มเองตามใจอยาก


ใส่ใบโหระพาลงไป
ที่นี่ไม่มีกะเพราน่ะ

กินกะเพราะไก่ไม่มีไข่ดาวได้อย่างไร
ต้องมีไข่ดาวด้วยสิเนอะ ถึงจะครบสูตร

ทอดไข่ดาว แบบไข่แดงยังสุกไม่หมดนี่แหละกำลังอร่อย
เอาไปโปะบนข้าว

ได้อาหารจานง๊าย ง่าย กินอีกหนึ่งมื้อละ มื้อไหนไม่รู้ เพราะหิวตอนบ่ายสองครึ่ง กว่าจะทำเสร็จก็ได้กินตอนบ่ายสามน่ะ
ไม่รู้ตอนเย็นจะกินอีกไม๊ ดูสถานการณ์ก่อน



ไปดูครัวกัน รกไปหมดโดยเฉพาะหน้าตู้เย็น
เท่าที่เคยเห็นในรูปแต่ละบ้านจะมีตัวติดตู้เย็นหน้าตู้เต็มไปหมดแบบนี้แหละ
นอกจากบ้านผู้ดีจริงๆ


อิ่มละ สบายใจละ
ไปนั่งเล่นให้ย่อยก่อน

ก๋วยจั๊บพะโล้

วันนี้นั่งดูรูปก๋วยจั๊บ แล้วก็อยากกินขึ้นมาทันที ทำกินตั้งแต่ยังไม่สองโมงเช้า
ปกติไม่เคยกินอาหารเช้านะ จะนอนตื่นสายน่ะ

วันนี้เห็นรูปแล้วอยากกินกระทันหันเลย

ทำง่ายมาก
ต้มน้ำใส่โครงไก่ห้างที่เหลือ
ซื้อไก่มาหนึ่งตัวใช้คุ้มมาก

มีน่องไก่ก็หย่อนลงไป มีหมูด้วยก็หย่อนลงไป อยากใส่อะไรก็หย่อนลงไป

ใส่ผงพะโล้ 1ช้อน
ซีอิ้วดำ

ในสูตรใส่ช้อนเดียว แล้วใส่รสดี

แต่ไม่มีรสดีน่ะ ก็เลยใส่ซีอ้ิวดำไปอีกช้อน
แล้วก็เติมน้ำตาล เกลือ ซีอิ้ว ให้ได้รสตามชอบ

รสชาดเข้มข้นมากๆ
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทำเป็น

ทำเป็นครั้งที่ 2 แล้ว

ไม่มีเครื่องในมาใส่นะ ไม่เห็นมีขายน่ะ
ไม่อยากซื้อด้วย ซื้อมาก็ทำกินไม่หมด
แค่นี้ก็ดูเป็นก๋วยจั๊บแล้วเนอะ
เสียดายไม่มีถั่วงอกมาประดับ



ตอนที่หัดทำครั้งแรก น้ำยังไม่ข้นขนาดครั้งนี้นะ ตอนนี้เน้นซีอิ้วดำเยอะไปมั้ง แต่ชอบความหวานจากซีอิ้วดำน่ะ
หน้าตาจืดๆ เพราะไม่มีเครื่องใน



วันหยุดนี้ทำให้คุณผู้ชายชายกินบ้างดีกว่า อร่อยน๊า

คลิ๊กดูสูตรจากครัวไกลบ้าน

ว่าด้วยเรื่องโทรศัพท์มือถือ

มีคนถามว่า เอาโทรศัพท์จากไทยมาใช้ดีรึเปล่า
เป็นเครื่องโทรศัพท์ใหม่เลย ขายเครื่องถูกๆไปก่อนมาดีกว่าไม๊

ก็เลยลอกความคิดเห็นมาไว้ตรงนี้ละกันนะ เผื่อมีคนสงสัย

ไม่ได้มีประสบการณ์ใช้โทรศัพท์ที่อเมริกามากเลยนะ
แต่จากที่มาถึงปั๊บ คุณผู้ชายก็พาไปซื้อโทรศัพท์ ที่นี่ประมาณว่าซื้อซิมแถมโทรศัพท์น่ะ
โทรศัพท์ที่นี่ถูกนะ ถูกกว่าเมืองไทยเยอะมาก ตอนคุณผู้ชายพาไปซื้อนี่ดูราคาคิดเป็นเงินไทยยังงงเลย ว่าจริงๆเหรอ
(อันที่แพงมากก็มี แต่ถ้าอยากได้เครื่องแบบ bb ที่นี่ถูกกว่าไทยเยอะน่ะ)

สรุปตัวเองเลยไม่ได้ซื้อใหม่ เพราะตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอาอันไหนดี
( ที่นี่โทรศัพท์มีตั้งแต่ประมาณ $29 ไปจนถึง $500 น่ะ )
แต่ในร้านที่ไปดูมีราคาประมาณ $100 กว่า( bb ราคาประมาณนี้แหละ ) คิดว่าร้านทั่วไปก็คงราคาประมาณนี้ ราคาขนาดนี้ก็ได้โทรศัพท์ที่มีคุณสมับัติเยอะแล้วน่ะ
ถ้าโทรศัพท์ธรรมดาก็ถูกๆ กว่านี้มาก ประมาณ $30-$49

คนที่ได้เครื่องใหม่คือคุณผู้ชาย
แล้วเอา Blackberry อันเก่าที่เค้าใช้มาให้เราใช้ ( ราคาประมาณ สามพันกว่าบาทไทยน่ะ )
ใช้ซิมของ verizon
ค่า net แบบไม่จำกัด เดือนละ $25
คูรผู้ชายสมัครไว้ตั้งแต่สมัยนานมาแล้ว เอาไว้รับส่งEmail ทางโทรศัพท์น่ะ

โหลด Skype mobile มาใส่เครื่องได้ สมัครค่าโทรประมาณ 200 บาท/เดือน ( จ่ายให้ Skype ) โทรออกจาก Skype mobile ในโทรศัพท์ไปมือถือทางบ้านที่ไทย โทรได้ทั้งเดือน
คุ้มมาก
ไม่นับนาทีการโทรจาก plan ของโทรศัพท์ที่ใช้อยู่ ( ปกติ โทรศัพท์ที่อเมริกา โทรเข้าโทรออกนับนาทีหมด แล้วแต่ plan ที่เราเลือกด้วยมั้ง แต่plan ของที่พี่แพรใช้นับหมด ถึงแม้จะโทรผ่านบัตรโทรศัพท์ต่างหาก ก็ยังนับเวลา ตอนมาเดือนแรกๆนี่ใช้เกิน planน่ะ พอมาใช้โทรผ่านSkype ก็ดีตรงที่ไม่ต้องโดนหักนาทีที่ใช้เวลาโทรกลับไทยน่ะ )

plan ที่ใช้นี่เป็น plan ร่วมกับเบอร์ของคุณผู้ชาย plan เดียวกัน ใช้สองเบอร์เลย

ที่นี่ bb ถูกมากกกกก ค่าบริการเหมือนโทรศัพท์ทั่วไป
ค่า net ที่ใช้อยู่นี่คือ unlimit $25 /เดือน ถ้าใช้น้อยก็เลือกแบบน้อยกว่านี้น่ะ

สรุป

ยังไงก็ต้องมาซื้อซิมที่นี่อยู่แล้ว ก็มาดูเครื่องใหม่ถูกๆ น่ะ( bbถูกกว่าไทยเยอะ )
อันที่ไทยก็ให้พ่อแม่ ญาติสนิทที่รักไปเหอะ หรือเก็บไว้ดูเป็นที่ระลึกเผื่อใช้งานตอนกลับไทย
หรือจะขายแบบลดกระหน่ำ แบบพอได้เงินติดตัวมาบ้งก็ขายไป

พอมาถึงก็ใช้เงินคุณผู้ชายซื้อใหม่ เพราะอย่างที่บอก ซื้อซิมบางที่ก็ได้โทรศัพท์ด้วยน่ะ ไม่แพงด้วย
bb $39ก็มี ไม่อยากจะเชื่อเลย

ถ้าอยากได้ bb น่ะ ที่นี่ถูกน่ะ ถ้าเทียบกับไทย แล้วถ้าต้องมาซื้อซิมที่นี่ ส่วนใหญ่ก็จะได้โทรศัพท์ด้วยน่ะ ไม่แพงเท่าไทย
บางทีก็ซื้อหนึ่งแถมหนึ่งน่ะ
เอามาให้ดูว่าเครื่อง bb ที่นี่ราคาประมาณนี้ http://phones.verizonwireless.com/skypemobile/?cmp=KNC-PaidSearch

ถ้าเราจะมาใช้ชีวิตที่นี่ โดยการถือเครื่องใหม่มา กับมาซื้อเครื่องใหม่ที่นี่
คิดว่ามาเริ่มที่นี่ดีกว่า เพราะถ้าเกิดเครื่องมีปัญหาในช่วงที่ซื้อมาใหม่ๆ เราก็กลับไปร้านเดิมที่เราซื้อได้น่ะ
ถ้าเป็นเครื่องที่ถือมามีปัญหาก็คงไม่รู้จะเอาไปซ่อมที่ไหน


ถ้าจะถือเครื่องมา แล้วตั้งใจมาซื้อซิมอย่างเดียวแบบถูกๆ ซิมจะราคาเท่าไหร่นี่ ไม่มีข้อมูลนะ



ตอนนี้ใช้ plan เดียวกับคุณผู้ชาย คือจ่ายรวมกัน ทุกอย่าง ประมาณ $120 /เดือน ต่อสองเครื่อง ( มีรายการที่เลือกย่อยๆเยอะน่ะ นาทีที่โทรออกกับรับสาย , net , sms รวมหมดแล้ว )
คิดเป็นรายจ่ายทั้งปีนี่คุณผุ้ชายบอกว่าก็แพงนะ แต่บางอย่างที่เลือกไป เปลี่ยนไม่ได้น่ะ บังคับใช้ 2ปี ก็เลยต้องยอมจ่ายขนาดนี้ ทั้งๆที่จริงๆตอนนี้ใช้น้อยกว่า plan ที่เลือกมากๆเลยล่ะ

แบบเติมเงินก็มี แต่ไม่มีข้อมูลนะ ต่้องศึกษาเอาเอง แต่เท่าที่เคยเห้นคนอื่นพูดถึงแบบเติมเงิน รายละเอียดการหักเงินเวลาใช้จุกจิกเยอะมาก สรุปก็ไม่ค่อยประหยัดน่ะ

การใช้โทรศัพท์ที่นี่ส่วนใหญ่จะมีช่วงเวลาที่โทรแบบประหยัดได้ ในแต่ละค่าย ก็ต้องศึกษาข้อมูลก่อน
อาจถามจากคนอื่นที่รู้จักที่เคยใช้
หาข้อมูลก่อนว่าจะเลือกใช้ของบริษัทไหนดีน่ะ
รายละเอียดของการใช้แต่ละค่ายค่อนข้างมีรายละเอียดจุกจิกเยอะน่ะ ต้องศึกษาดีๆก่อน


เดี๋ยวจะมาต่อเรื่องการใช้ Skype โทรผ่านโทรศัพท์มือถือไป มือถือที่ไทย นะ

ไปนอนก่อน

ระนอง

ขากลับจากสุราษฎร์ เช่ารถขับกลับบ้าน ช่วยกันออกค่านำ้มัน
เงินไม่พอซื้อตั๋วเครื่องบินกลับ

แวะระนองด้วย

ทะเลไม่มีผู้คนเลย เพราะพื้นที่แถวนี้พึ่งปรับปรุง
ไม่มีใครกล้ามามั้ง ช่วงหลังซึนามิได้ไม่นานน่ะ





เห็นสะพานนี่ไม่ได้เลย ชอบมาก ชอบถ่ายรูปกับสะพาน เพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน


ไปไหนก็ต้องมีกาแฟเย็นน่ะ
อะเมซอน นี่ชอบมาก ๆ
รองลงมาก็อินทะนิน ในปั้มบางจาก แต่หวานไป
อะเมซอนกำลังพอดี






นั่งเรียบร้อยเชียว




ห้องพักคืนละ 650 ก็น่ารักดี ชอบห้องอาบน้ำ ประตูกระจกฝ้า บานใหญ่มาก สูงมาก เก๋ดี ชอบ






ไม่ค่อยมีรูปเพื่อน เพราะต่างคนต่างถือกล้อง เดินถ่ายรูปกันสนุกสนาน ไม่สนใจกันเลย
เดี๋ยวเอารูปมาใส่อีกนะ

ง่วงแล้ว

เมนู ยำไก่ฉีก

มีไก่ห้างเหลือ
ก็เลยเอามาอุ่นไมโครเวฟ

ฉีกๆๆ

ใส่อุปกรณ์ยำ
ปรุงรสตามชอบ

แป๊บเดียวก็ได้อาหารจานง่ายแบบไม่ค่อยอ้วนอีกหนึ่งจาน

กินกับข้าวเหนียวหุงจากไมโครเวฟ


วิธีหุงข้าวเหนียวจากไมโครเวฟ เคยเอาลิงค์มาวางแล้วแหละ เอามาให้ดูอีกง่ายๆ คลิ๊กดูสูตรนึ่งข้าวเหนียวจากสารพัดวิธี



เมื่อวานไปกินไอติมมา สั่งไม่เป็น เลยได้ไอติมที่มีเม็ดลูกกวาดสีๆ เต็มถ้วยไปหมดไม่ชอบเลย


ถ้วยเล็กๆ นี่ประมาณ $2 = 70 บาทไทย เสียดายตังค์น่ะ ถ้าซื้อเป็นกล่องตามห้างก็จะราคาเท่าๆนี้แต่ได้กล่องใหญ่ ปริมาณมากกว่าเยอะเลย
แต่ไม่อยากซื้อแบบนั้นมาเก็บในตู้เย็น เดี๋ยวคนที่บ้านจะแอบเปิดตู้กิน บ่อยๆ

ยิ่งแต่อ้วนๆอยู่ด้วย

เลยต้องยอมไปเสียเงินแบบนี้

ส้มตำอัลมอนด์

เมื่อวานซื้อมะละกอมาตำส้มตำกินเป็นครั้งแรก ตั้งแต่มาอยู่นี่
ทีแรกกะว่าจะรอกลับไปกินส้มตำที่ไทยเลยทีเดียว
เพราะเคยหัดทำนานมามากแล้วตั้งแต่น๊าน นาน มาแล้ว ไม่ได้เรื่องเลย เลยไม่พยายามอีกเลย

แต่เมื่อวานตัดสินใจซื้อมาลองทำดู
มะละกอลูกเล็กๆ ประมาณ $2 สินค้าผักต่างๆ จะราคาประมาณนี้แหละ
ไม่มีถั่วลิสง เลยใส่อัลมอนด์ แล้วก็ใส่เครื่องปรุงเยอะๆ
น้ำตาล นำ้ปลาเป็นทัพพีๆ เหมือนเห็นที่ร้านทำ ใส่ๆๆๆลงไป
ใส่พริกไป 9 เม็ด โอ๊ย อร่อย สะใจ





ไปซื้ออาหารมาตุนที่ห้างในค่าย
เดินผ่านตู้ไก่อบ เห็นไก่เหมือนไก่ย่างห้าดาว น่ากินมาก ก็เลยไปเกาะตู้ดู ทำไมเค้าทำออกมาน่ากินจัง เราทำไม่เห็นออกมาเป็นแบบนี้เลย
สงสัยน้ำลายหกใส่ตู้ให้คุณผู้ชายเห็น เธอบอกว่า อยากกินก็ซื้อไปสิ

จะดีเหรอ... เสียดายตังค์อ่ะ ตั้ง $6
ซื้อไก่ Pack หนึ่งนี่ประมาณ $4 ทำกินได้ตั้งหลายมื้อ ..... แต่ไม่อร่อย

แต่ที่เค้าอบมาแล้วมันน่ากินมากๆๆ น้ำลายหก หยดติ๋งๆๆๆ .......
ก็เลยซื้อมาหนึ่งตัว
มากินกะส้มตำพอดีเลย


อร่อยๆๆ


ผ่านไปอีกหนึ่งวันละ กับเมนูจานง๊าย ง่าย ไม่ต้องทำเองหมด



มีสมูตตี้แตงโมด้วย กับแตงโมแดงแปร๊ด เหมือนฉีดสีเลย




อุปกรณ์ทำมาหากิน
มาซื้อที่นี่ $10 น่ะ ราคาประมาณนี้แหละ อันนี้ครกไม้อะไรก็ไม่รู้ มันกระทัดรัดดี เลยเลือกอันนี้





จบข่าว