รีวิว ค่าใช้จ่าย ไปเที่ยวญี่ปุ่น : ตะลุยเจแปน ครั้งแรก

วันนี้ รีวิว ค่าใช้จ่าย จากประสบการณ์ไปญี่ปุ่น

ไปเป็นครั้งแรก 

สำหรับคนที่สนใจ

อยากไปบ้าง ได้ดูเป็นแนวทางวาง.  ใครมีมากเตรียมมาก เตรียมีน้อยเตรียมน้อย

บางคนมีมาก พยายามใช้จ่ายน้อย ๆ จ่ายเท่าที่จำเป็น ก็มีนะจ้ะ 

รีวิวค่าใช้จ่าย 1-7 กพ 2017 

🌀กรุงเทพ นาริตะ : สายการบินแอร์เอเชีย ไปกลับหนึ่งหมื่นสองพัน กว่าบาท ( รวม + ค่า กระเป๋า 20โล อาหาร1มื้อ และเลือกที่นั่ง )

ไม่ได้พยายามสอง ตั๋วโปรโมชั่นดีๆ ไม่คิดอะไรมาก

ตัดสินใจจะไป มีตั๋วอะไรใฟ้ซื้อในราคาพอซื้อได้ ซื้อเลย กลัวไม่ได้ไป รีบซื้อตั๋วเครื่องบินอันดับแรก 

🌀นาริตะ ซับโปโร: สายการบิน Vanila 6500 บาท ( กระเป๋า 20โล ) ราคาช่วงไม่เทศกาลประมาณ 3000กว่าบาท แต่ตอนไปเป็นเทศกาลหิมะ 

สรุป ค่าเครื่องบิน ไป สองต่อ ไปเที่ยวโตเกียว พัก2คืน 1-2 กพ แล้วไป ซัปโปโร 3-7 ขากลับ มาต่อเครื่องที่ นาริตะ เหมือนเดิม 

อยากไปเที่ยวเทศกาลก็ทำใจกับ ทุกอย่างจะแพงขึ้น ปลงๆๆๆ 

🌀ช่วงนั้นเทศกาลหิมะ โรงแรมราคาเพิ่มจากปกติ ประมาณ 2-3 เท่า ค่าโรงแรมแล้วแต่เลือก

 จองผ่านอะโกด้า ราคาทั้งหมดจำไม่ได้ พัก3ที่ จอง3เดือนก่อนไป  ทอย เก็บตัง ทยอย ชำระค่าบัตรเครดิตบ้าง
ไปเทศกาลหิมะ โรงแรมแพงกว่าปกติมาก ไม่อยากจำค่าที่พักให้ช้ำใจ

ไป ทั้งหมด 1-7 กพ เทศกาลหิมะที่ซัปโปโร 

🌀ก่อนไป แลกเงินกองกลาง ค่ากิน เที่ยว เดินทาง 3 คน คนละ 19,000 บาท ( แยกส่วนที่พักต่างหาก ) + มีเงินติดกระเป๋าแต่ละคน ที่แลกเป็นเงินญี่ปุ่น คนละ1หมื่นบาท
(ไม่รวมที่พัก เครื่องบิน) 

ค่าอาหาร ค่าเข้าสถานที่ ค่าเดินทางไปที่เที่ยว ทุกอย่างในที่เตรียมนี้ จ่ายรวมจากเงินกองกลางนี้ ตั้งแต่อาหารมื้อแรกที่ดอนเมือง 

มื้อเช้าประหยัดทุกวัน ซื้ออาหารร้านสะดวกซื้อมาใส่ตู้เย็น
มื้อกลางวัน กินตามร้านอาหารทั่วไปตามที่ไปเที่ยว
มื้อเย็น กินร้านบ้าง ซื้ออาหารมากินที่พัก บ้าง เพราะตะลุยเที่ยว เมื่อเที่ยงกินเยอะทุกวัน กินเสร็จเดินๆ พอมืดเริ่มล้า อยากกลับที่พัก มื้อเย็นกินง่ายๆ 

มื้อที่แพงคือ กินบุปเฟ่ขาปู1มื้อ ที่ร้านนันดา ซัปโปโร มื้อ ละ ประมาณ 1800 บาท ซูซิที่ โอตารุ setเลือกอาหาร set ละประมาณ 800 บาทถึงพัน บาท 

นอกนั้นธรรมดา อาหารชุดตามร้านทั่วไป ราคาประมาณ 900 ถึงพันกว่า เยน ต่อมื้อ 

ตลอดทริป ไม่ได้ใช้เงินส่วนตัวจ่ายเพิ่ม กินจุบจิบทุกอย่างจ่ายจากเงินกองกลางรวมกันหมด 

🌀มีเงินเตรียมไว้ในกระเป๋า ส่วนตัว เพื่อน 2 คน คนละ 10,000บาท
ตัวเอง 9000บาท ( เงินที่แลกมาแบ่งค่าใช้จ่าย เหลือติดกระเป๋าได้คนละเท่านี้ )

เงินกองกลางใช้พอดี ไม่ได้กดเพิ่ม
เพื่อนใช้บัตรเครดิตซื้องของกลับ

ส่วนตัวเอง9,000บาท ที่คิดกระเป๋า พยายามใช้ให้หมด ใช้ไม่หมด เหลือมานิดหน่อย
ไม่ได้ตั้งใจไปช้อป ไม่มีอะไรที่อยากได้เลย  ชีวิตอยู่อเมริกา ซื้อหาสะดวกอยู่แล้ว ทุกอย่างที่อเมริกามีหมด 

ซื้อแต่ขนม คิทแคทชาเขียวเยอะมาก และของที่ระลึกชิ้นเล็กๆ
( มาถึงอเมริกาถึงรู้ว่า มีชาเขียวคิทแคทขายที่ร้านเอเชีย ราคาเท่าๆกัน 😖)

ก่อนเข้าที่พักทุกวัน เข้าร้านสะดวกซื้อ ซื้อไว้กินตอนเช้าก่อนออกเที่ยว(เงินกองกลาง)

( แนะนำให้เตรียม ครีมนวดน่อง นวดขา แก้ปวดไปด้วยนะจ้ะ เดินตลอด กลับที่พักปวดเมื่อยมาก ไปหาซื้อก็หาไม่เจอ อ่านป้ายไม่ออก ไม่มีลักษณะยานวดเลย  )

🌀ค่ากิน ค่าที่พัก แล้วแต่เราเลือกกินอะไร 

ถ้าอยากประหยัดเข้าร้านสะดวกซื้อ ซื้อไว้กินตอนเช้าก่อนออกเที่ยว

ตอนเย็นถ้าเหนื่อยอยากกลับที่พัก ซื้ออาหารกล่องจากร้านสะดวกซื้อมากินที่ที่พัก ประหยัดได้ด้วย มื้อกลางวันไปเที่ยว ที่ต้องกินข้างนอก จัดเต็มไปหนึ่งมื้อ อยากจัดเต็มเข้าร้านตามที่มีรีวิว 

ตอนไปไม่ได้ พยายามประหยัดจนไม่กล้าซื้ออะไรกินเลย แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะไปเน้นอาหาร อายุเยอะแล้ว ขอแค่อิ่ม และได้เข้าร้านตามรีวิวบ้าง ถ้ามีโอกาส ส่วนใหญ่เข้าร้านอาหารทั่วไปที่เจอตามที่ไปเที่ยว 

ประหยัดบ้างในบางมื้อที่ทำได้ โดยมื้อเช้าซื้อจากร้านสะดวกซื้อ เหลือ งบ เก็บไว้กินมื้ออื่น

มื้อที่แพงคือ ร้านบุปเฟ่ขาปู นันดา ซับโปโป ประมาณ 1800 บาทต่อคน

ซูชิ ที่โอตารุ set ละ 800-1000 บาท
นอกนั้นเข้าร้านทั่วไปตามสถานที่เที่ยว ราคาในงบที่เตรียมไป ไม่ได้พยายามประหยัดจนลำบาก 

ไม่ได้กดเงินเพิ่ม 

ที่พักถ้าอยากประหยัดเลี่ยงช่วงเทศกาล นอนที่พักแบบโฮสเทล ถ้าอยากประหยัดมากเลือกแบบห้องน้ำรวม ประหยัดแบบสะดวกสบายหน่อย เลือก โฮสเทลแบบห้องน้ำส่วนตัว ใกล้สถานีรไถฟJR รถไฟใต้ดิน 

เลี่ยงช่วงเทศกาล ช่วงเทศกาลห้องแพงแน่นอน และแพงขึ้นมากๆๆๆๆ

ตอนไป จ่ายที่พักราคาสูงกว่าทั่วไป ไม่มีตัวเลือกถูก เนื่องจากไปเทศกาลหิมะ 

ศึกษาเรื่องการส่วนตั๋ว ในการเดินทาง แบบที่มีส่วนลด จะช่วยลดรายจ่ายได้ 

ตอนไปค่าเดินทางไม่ค่อยได้ส่วนลดค่าเดินทางเท่าไหร่ เพราะไม่ค่อยได้หาข้อมูลเรื่องนี้ ตั้งใจว่า ลองไปดูก่อนจ่ายเต็มไปก่อน ละกัน จะได้ไม่ต้องศึกษาเยอะ  อารมณ์คือขี้เกียจพยามยามทำความเข้าใจ ว่าซื้อตั๋วไหนดี 

แต่ก็ได้ลดบางอย่าง บ้าง ที่ง่ายๆ ไม่ต้องศึกษาข้อมูลเยอะ 

ถ้าหาข้อมูลการเดินทางเยอะๆก่อนก็จะลดรายจ่ายในการเดินทางลงได้บ้าง 

🌀ใช้ sim2fly สัญญานดีมากทุกที่ ที่ไป

ใครกำลังตัดสินใจ ไปเองดีหรือเปล่า อ่านรีวิวเยอะๆ ไปเองเลย  สนุกๆๆ แน่นอน  💪 

👉 ไปญี่ปุ่น ใช้เนทแบบไหนดี https://myparewa.blogspot.com/2017/03/blog-post_31.html

👉 อ่านเตรียมตัว ตะลุยเจแปนครั้งแรก https://myparewa.blogspot.com/2016/12/blog-post.html

👉 อ่านเที่ยวญี่ปุ่นเองครั้งแรก https://myparewa.blogspot.com/2017/03/blog-post.html

👉 อ่านเที่ยวญี่ปุ่นเองครั้งแรก ตอน 3 https://myparewa.blogspot.com/2017/03/2.html

👉 ภูเขาโมอินะ ใครไปซัปโปโร หาโอกาสไปให้ได้เน้อ https://myparewa.blogspot.com/2017/10/blog-post.html

ภูเขาโมอิวะ ซัปโปโร : ตะลุยเจแปนครั้งแรก

จุดเที่ยวที่ประทับใจจากทริป ไปชมเทศกาล หิมะ ต้นปีที่ผ่านมา

เผื่อใครกำลังจะไป ซัปโปโร 

ภูเขาโมอิวะ เมืองซัปโปโร

นั่งกระเช้า ขึ้นไปชมบรรยากาศบนภูเขาโมอิวะ

ทานอาหารบนนั้น นั่งฟินกับบรรยากาศ ราคาเท่าในร้านทั่วไป

การเดินทางจาก ในเมืองซัปโปโร นั่งรถรางไม่นาน 

🌀การขึ้นรถราง ขึ้นจากด้านหลัง ลงด้านหน้า จ่ายเงินตอนจะลง 

🌀ลงจากรถราง มองหาป้ายรถรับฟรี ไปทางขึ้นภูเขาโมอิวะ 

🌀ข้ามถนนจากตรงที่ลงจากรถราง เพื่อไปขึ้นรถรับส่งฟรี

🌀นั่นรถฟรีไป ถึงที่ขึ้นกระเช้า 

🌀ค่าขึ้นกระเช้าคนละ 1,700 เยน 

🌀ขากลับนั่งรถรางกลับ ขึ้นฝั่งไหนก็ได้ รถรางวิ่งวนเป็นสี่เหลี่ยม รอบเมือง เลยลองนั่งฝั่งเดิม ไม่ได้นั่งย้อนกลับทางเดิม  เพื่อชมบรรยากาส ชมเมืองรอบๆ

เตรียมค่าอาหารไปในทริปนี้ ตั้งงบไว้มื้อละ ประมาณ 300บาท 

เตรียมค่าอาหาร สำหรับ 3คน เตรียมไปหนึ่งพันบาทต่อคนต่อวัน

ใช้พอดีตามที่เตรียมไป

ค่าอาหารที่เตรียมไปนี้ ได้ไปกินบุปเฟ่ที่ร้านนันดา ร้านบุปเฟ่ ขาปูชื่อดังใน ซัปโปโร

คนละ ประมาณ 1,800 บาท ถ้าจำไม่ผิดนะ 

มื้อเช้าประหยัดเพราะ ซื้ออาหารร้านสะดวกซื้อมาใส่ตู้เย็นไว้ 

พักที่ ข้าวสารโฮสเทล เลือกแบบมีห้องน้ำในตัว 

มี ตู้เย็นไมโครเวฟในครัวรวม 

ไปกันเองครั้งแรก กับเพื่อน รวม3คน

ใครกำลังตัดสินใจ ไปเองดีหรือเปล่า อ่านรีวิวเยอะๆ ไปเองเลย  สนุกๆๆ แน่นอน  💪 

👉ไปญี่ปุ่น ใช้เนทแบบไหนดี https://myparewa.blogspot.com/2017/03/blog-post_31.html

👉อ่านเตรียมตัว ตะลุยเจแปนครั้งแรก https://myparewa.blogspot.com/2016/12/blog-post.html

👉อ่านเที่ยวญี่ปุ่นเองครั้งแรก https://myparewa.blogspot.com/2017/03/blog-post.html

👉อ่านเที่ยวญี่ปุ่นเองครั้งแรก ตอน 3 https://myparewa.blogspot.com/2017/03/2.html

ข้อมูลปรับสถานะ ขอใบเขียวในอเมริกา : เตรียมเอกสาร

ข้อมูลปรับสถานะ ขอใบเขียวในอเมริกา : เตรียมเอกสาร

: มาด้วยวีซ่าชั่วคราว แต่งงานกับอเมริกันซิติเซ่น ขอใบเขียว 

แบบฟอร์มที่ใช้ ปรับสถานะ ขอใบเขียว 

I-130 อเมริกันซิติเซ่นกรอก / I-130A ผู้ต้องการใบเขียวกรอก https://www.uscis.gov/i-130

I-864 แบบฟอร์มแสดงรายได้  https://www.uscis.gov/i-864

I-485 แบบฟอร์มปรับสถานะ  https://www.uscis.gov/i-485

I-765 ใบอนุญาตทำงาน ระหว่างรอใบเขียว ส่งหรือไม่ก็ได้ ควรส่ง ไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่ม  https://www.uscis.gov/i-765

I-131 ใบขออนุญาตเดินทาง ระหว่างรอใบเขียว ส่งหรือไม่ก็ได้ ไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่ม https://www.uscis.gov/i-131

G-1145 แบบฟอร์มขอรับข้อมูล ทาง SMS , Email 

G-325A เอกสารประกอบของ I-485 ยกเลิกแล้ว

อ่านข้อมูลเพิ่ม http://www.mygreencardus.com/adjust-of-status-thai/


 กดไลค์เพจ  ติดตาม  ข้อมูลวีซ่าอเมริกา เรื่องราว ทั่วไปในอเมริกา  https://www.facebook.com/jjparewa/

บล็อคเขียนเรื่องราววีซ่าอเมริกา รวมเรื่องราวเริ่มต้นในอเมริกา  พาเที่ยว เวลากลับไทย https://visapapai.com

ไปญี่ปุ่นใช้เนทแบบไหนดี

จากประสบการณ์ตัวเองไปญี่ปุ่นมา 1อาทิตย์
( เดินทาง 1กพ 2560 กลับ 7 กพ 2560 )
สำหรับคนที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นประมาณ 1อาทิตย์ อยากมีinternet ใช้ในโทรศัพท์
มีทางเลือกดีๆเยอะแยะมากมาย
อีกทางเลือกจากประสบการณ์ตัวเอง  แนะนำซื้อ ซิม2fly ของ AISจ้ะ 399 บาท ใช้ง่ายสะดวก ไม่ต้องพก pocket wifi
จากหาข้อมูลมา อันนี้ดีสุดประหยัดสุด ( กรณีไปไม่กี่คน
แต่ถ้าไปหลายคน อาจเลือก pocket wifi แล้วมาหารกันจ่าย ลองเปรียบเทียบดูนะ )
ก่อนเลือกซิมนี้ อ่านในพันทิพ และคำแนะนำหลายๆที่ มีหลายซิมที่แนะนำกัน แต่อันนี้ถูกสุดในที่แนะนำ
ไปมาแล้ว เนทแรงดีทุกที่ที่ไปในโตเกียวและซัปโปโร บนภูเขาโมอิวะ ก็ยังเนทแรงดี up facebook ตลอดเวลา ใช้เนทแทบตลอดเวลา ค้นข้อมูล ดูทางใน GPS
เราเลือกอันนี้ไม่เลือก pocket wifi เพราะกลัวเดินแยกจากเพื่อน จะไม่มีสัญญาณ และ แต่ละคนพก power bank ของตัวเองแล้วไม่อยากพก pocket wifi  เลยเลือกแบบซิม สะดวกดี
( เราพก power bank 32,000 ใหญ่มาก กล้องอีก ไม่อยากเอาอะไรใส่กระเป๋าอีก )
เราสมัคร ดาต้าโรมมิ่งของดีแทคไว้ด้วยนะ ลองดู เอาซิมใส่ไอแพด สมัครเพื่อตั้งใจลองดู มารีวิว ลองดูว่าเนทจะแรงดีไม๊ ปรากฎว่า สัญญาณไม่ดีเลย ขึ้นว่าไม่มีเครือข่ายทุก30วิ ที่ลองเข้าเนท หมุนไป30วิ หลุด
จ่ายไปพันกว่าใช้ไม่ได้เลย จ่ายเพื่อลองไม่ได้ใช้เลย แม้แต่นิดเดียว ไม่มีสัญญาณ
ตลอดทริป เรากับเพื่อนแต่ละคนใช้ sim2fly ของ AIS ใช้ตลอดเวลา สำหรับเรามันคุ้มแล้วล่ะ กดsearch หาข้อมูลแทบตลอดเวลา
ดู GPS เกือบตลอด
เพื่อนโทรหาแฟนทุกครั้งที่กิน รายงานว่ามื้อนี้กินอะไร (โทรทางไลน์)
คุ้มสุดๆ

เราใช้หาขัอมูล

เพื่อนอีกคนใช้ดูGPS

เดินหายจากกันก็โทรหากันด้วยไลน์

399 บาทหลัง activate ซิม จะใช้ได้8วัน

ไม่ต้องเติมเงินเพิ่ม

กลับมาก็เอาซิมทิ้งไปเลย ใช้ซิมเบอร์เดิม

เราไปซื้อที่ศูนย์ AIS 399 บาทตามนี้เลย
ราคานี้คือ ซื้อมาใช้เนทได้เลยหลัง activate แต่ถ้าจะโทรผ่านเบอร์ซิมนี้ต้องเติมเงิน เราไม่เติมเงิน โทรทางไลน์เอา
การ activate ซิม ก็แค่กดโทรออกหมายเลขตามที่บอกมาในแผ่นแนะนำ
ดีจริงๆนะ ไม่ได้มีเอี่ยวอะไรกะ AIS เลย ถ้าอยู่ไทยชอบใช้ ดีแทคมากกว่า เนทไม่ค่อยหลุด
ใช้ AISเนทหลุดบ่อย (ในพื้นที่แถวบ้านที่ต่างจังหวัดน่ะ)

บนภูเขาไฟโมอิวะ นั่งกระเช้าขึ้นไป ไปถึงก็มีสัญญาณเนท


อ่าน ไปดูวิวบนภูเขาโมอิวะ https://myparewa.blogspot.com/2017/10/blog-post.html

ใครกำลังตัดสินใจ ไปเองดีหรือเปล่า อ่านรีวิวเยอะๆ ไปเองเลย  สนุกๆๆ แน่นอน  💪 

👉ไปญี่ปุ่น ใช้เนทแบบไหนดี https://myparewa.blogspot.com/2017/03/blog-post_31.html

👉อ่านเตรียมตัว ตะลุยเจแปนครั้งแรก https://myparewa.blogspot.com/2016/12/blog-post.html

👉อ่านเที่ยวญี่ปุ่นเองครั้งแรก https://myparewa.blogspot.com/2017/03/blog-post.html

👉อ่านเที่ยวญี่ปุ่นเองครั้งแรก ตอน 3 https://myparewa.blogspot.com/2017/03/2.html

รายงานผล ใส่ โฆษณา Google

หลังจากสมัครลงโฆษณาผ่านไป 2 เดือน 
 แทบไม่ได้ทำอะไรกับบล็อคเลย  เพราะใส่โฆษณาเสร็จกลับไทย
กิจกรรมเยอะมาก  ไม่ได้เข้าบล็อคเลย

เขียนข้อมูลวีซ่านั้นๆ1ครั้ง  ข้อมูลเตรียมไปเที่ยว ญี่ปุ่น1ครั้ง 

กลับจากไทย ผ่านไป2เดือนที่สมัครลงโฆษณา
ลองคลิกไปดูรายงาน มียอด $9 กว่า นี่คือยอดรายได้เหรอ
ไม่ค่อยเข้าใจหรอก ไม่มียอดคลิกโฆษณาแม้แต่ครั้งเดียว 
แค่มีคนเข้ามาดูก็คิด%ให้เหรอ ไม่เข้าใจเลย
ยังไงก็ได้  ลองหัดทำดูเฉยๆอยู่แล้ว 
แต่ถ้าได้เงินก็ดีนะ ดอลล่าห์สองดอลล่าห์ก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่ได้มากระชุ่มกระช่วยหัวใจ 😄

 


ตัวเลขค่อยๆเพิ่มมาทีละนิด คือเลขจากอะไรไม่รู้ บางอันก็ตัวเลขกระจึ๋งเดียว  ไม่เข้าใจที่มาที่ไปเลย




 

เที่ยวญี่ปุ่นเอง ครั้งแรก ตอน 3

พิมพ์ใน app ในโทรศัพท์ บรรทัดออกมาเรียงพรืดเลย เดี๋ยวจะมาตามแก้นะ

ไปญี่ปุ่นพักที่ไหนดี วันแรกไปลงสนามบินนาริตะ จ
จุดหมายคือ ซัปโปโร , ฮอกไกโด 
ไหนๆก็ได้ชื่อว่ามาญี่ปุ่นละ เข้าไปเที่ยวในโตเกียวหน่อยละกัน ชีวิตนี้นี้ไม่รู้จะได้มาอีกไหม  
ไปถึงมืดแล้วเลยพัก คืนหนึ่งก่อน ยอมเสียค่าที่พัก เพื่อตอนเช้าจะได้ตื่นมาเที่ยวสบายๆ
ไม่เลือกเที่ยวบินที่ไปถึงเช้าแล้วเที่ยววันนั้นเลย ( นึกถึงกระเป๋าที่เอาไปด้วยเลยอยากไปถึงแล้วพักก่อน)

เดินทางวันที่ 1 กุมภา 2017 
สายการบินแอร์เอเชีย ไปกลับหนึ่งหมื่นสองพัน บาท ( รวม + ค่า กระเป๋า 20โล อาหาร1มื้อ และเลือกที่นั่ง )

ถึงที่พัก ห้าทุ่ม กว่า มั้ง ดูจะไม่ค่อยใข้ห้องคุ้มเลยแต่ก็ไม่เป็นไร  ได้พักหลับสบายเต็มอิ่มอยู่
ตอนเช้าไม่เน้นต้องรีบออกเที่ยวแต่เช้ามาก ออกไปแบบสบายๆ

 วันรุ่งขึ้นไปเที่ยวในโตเกียว พักอีก1คืน
อายุเยอะกันแล้ว ขอไปแบบไม่ต้องรีบตื่นรีบเดินทางมากมาย  กลับมาที่พักขอให้ได้พักหลับสบายหน่อยเพื่อเตรียมแรงไปวันต่อไป

วันต่อไป วันที่ 3 เช็คเอ้าท์ไปสนามบินนาริตะ เพื่อไปฮอกไกโด

รวมพักในโตเกียว 2 คืน  จะพักที่ไหนดี

🔹ถ้าพัก ใกล้สนามบิน สะดวกตอนจะเดินทางโดยเครื่องบินต่อไปHokkaido ราคาลดลงกว่าพักในใจกลางโตเกียว แต่ตอนเที่ยวในโตเกียว ต้องนั่งรถโดยสารเข้าไปเที่ยวในเมืองโตเกียวและนั่งรถโดยสารกลับ โรงแรม  ขากลับคงล้าแล้วอยากถึงที่พัก พักไวๆ 

🔹ลองดูที่พัก ในเใจกลางโตเกียว ย่านดังๆที่คิดว่าจะไปให้ได้ชื่อว่ามาแล้ว ที่พักแพงมาก ช่วงที่เป็นเป็นช่วงเทศกาลหิมะที่ซัปโปโร  ดูราคาเทียบกับช่วงอื่น ราคาแพงขึ้นมากกกกก จะพักสองคืนคูณราคาแล้วยิ่งใช้งบเยอะไปกัน3คน
ห้องแบบพักได้3คนคัวเลือกน้อย ไม่อยากพักแยกห้อง 

🔹ลองขยับที่พักออกไปหน่อย เจอที่พักเขตรีสอร์ทดิสนี่แลนด์ราคาลดลง วิวสวยมาก ติดทะเล
เห็นสะพานลิบๆ มีที่พักแบบพัก3คนห้องเดียวกันให้เลือกหลายโรงแรม  
คูณราคาสองวันได้ลดกว่าพักในเมืองเยอะเลย
ถึงแม้ต้องเสียค่านั่งรถไฟฟ้าเข้ามาในเมืองแต่ก็ถือว่าเราได้ไปดูบรรยากาศแถวนั้น
ที่ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้ไปถ้าไม่ไปพักครั้งนี้ 

ห้องพักในโรงแรมก็ดูกว้างขวางกว่าห้องพักในโรงแรมในตัวโตเกียวมาก เลยตัดสินใจพัก ที่พักในเขตดิสนี่ย์แลนด์รีสอร์ท
เลือกโรงแรมที่ราคาต่ำสุดที่มีให้เลือก แบบห้อง สำหรับพักได้3คน วิวทะเล

ไปถึง ที่พัก ดึกมาก( มัวแต่หาจุดขึ้นรถบัสฟรีของรีสอร์ต)  มื้อเย็นวันนั้น ( กินตอนประมาณเกือบเที่ยงคืน)  ได้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปคัพ โจ๊กคัพ ที่ติดกระเป๋ามาจากไทยเผื่อเอามากินตอนเข้าที่พักแล้ว เหนื่อยไม่อยากออกไปซื้อ
 มีประโยขน์ช่วยได้ดีเลย เพราะไปถึงดึกแล้ว

 ระหว่างเดินทางไปโรงแรม มีกระเป๋าใหญ่ ลุ้นอยากถึงที่พัก ก่อนเที่ยงคืน ไม่มีอารมณ์พักหาอะไรกินก่อนเข้าโรงแรม ได้บะหมี่ ที่เตรียมไปช่วยให้ผ่านไปได้1 มื้อ ประหยัดงบค่ากินไป1มื้อ ด้วย  

ห้องพักกว้างขวางดีมาก เลือกห้องวิวทะเล วิวสวยงามมากแต่ไม่ได้ออกไปชื่นชมเท่าไหร่ เปิดประตูไปลมแรงมากแทบจะพัดตกระเบียง   ออกไปถ่ายรูปแป๊บเดียวรีบกลับเข้าห้อง

วันรุ่งขึ้น

วันที่ 2  ของ trip  เข้า นั่งรถไฟในรีสอร์ทดิสนี่แลนด์ ชมรอบๆสนุกสนานกระชากวัยมาก  

การเดินทางเข้าโตเกียวก็สะดวก นั่งรถไฟไม่นาน แต่นานตอนกลัวขึ้นผิดชานชาลา ตัดสินใจเล็งนานมาก  ขึ้นที่ชานชาลาไหน จะพาไปข้างหน้าตามเราต้องการหรือพาย้อนวนไปอีกทาง ( เหมือนขึ้นรถเมล์ผิดฝั่งรถไปฝั่งตรงข้าม ) นี่ใข้เวลาตัดสินใจนานมาก  นานตรงไม่มั่นใจว่าขบวนไหน ชานขาลาไหน ชานชาลานั้น จะตรงไปข้าวหน้าหรือไปทางตรงข้ามกับที่เราต้องการไป ถามจนเมื่อยมือ ~_~'

 คนญี่ปุ่นน่ารักมาก พยายามข่วยบอก

 : ภาพ วิวจากระเบียงห้องพัก ถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือ   

โรงแรมที่พัก เหมือนภาพโรงแรมจริงเหมือนที่เห็นใน Agoda เลย  

เดินทางไปโรงแรม
จากสนามบินนาริตะ นั่งรถไฟ JR สองต่อ ลากกระเป๋าใบใหญ่ไป
คนลากแบบนี้ไปมาเยอะแยะ  กลุ่มเรามีกระเป๋า 28 นิ้วและ26 นิ้ว ก็ลากได้นะ ในสถานีJR ที่วุ่นวายๆผู้คนมากมาย มีคนลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ๆไปมาเป็นเรื่องปกติ ไม่มีใครสนใจเราหรอกว่าเราพะรุงพะรัง เหมือนมาจากบ้านนอก หรือจากไหนไม่มีใครสนใจเลย ต่างคนต่างรีบ
 เราลากไปให้รอดของเราก็พอ ( รถไฟแน่นมาก ยิ่งกว่าปลากระป๋อง เราก็ลากกระเป๋าใหญ่รอดมาแล้ว ) 

ตอนหาข้อมูลหลายๆคำแนะนำบอกว่ากระเป๋าใหญ่ 28 นิ้ว จะลำบากตอนยกขึ้นบันได ในสถานีรถไฟฟ้าไม่ได้มีบันไดเลื่อนตลอด  เรากับเพื่อนกังวลเรื่องนี้มาก แต่จำเป็นต้องเอากระเป๋าใบใหญ่ไปเพราะจะไปเที่ยวที่ทีมีหิมะ เที่ยวทั้งวัน กลัวหนาว ไม่อยากเที่ยวแบบทรมานเพราะอากาศหนาว เสื้อผ้ากันหนาวเตรียมไปพร้อมมากๆ รองเท้าบู้ทด้วย อุปกรณ์กันหนาวจัดเต็มมาก ถ้าใช้กระเป๋า24นิ้ว ใส่เสื้อหนาวใหญ่ก็เดียวก็กินที่กระเป๋าไปเยอะมาก   เลยคัดสินใจเอา28นิ้วไป ซื้อน้ำหนัก โหลดใต้เครื่อง 20โล แต่พอไปจริงก็ไม่ถึงกับลำบากจนทำไม่ได้

เราสรุปว่า จะเอากระเป๋าใบใหญ่28นิ้วไปไหวไหม พอเอาไปได้ผ่านไปได้ไหม เราว่าอยู่ที่ใจนะ ถ้าเตรียมใจว่าเราต้องยกกระเป๋าบ้าง ใจเราสู้ ยกกระเป๋า28นิ้วขึ้นลงบันไดได้ ไม่ได้เป็นบันไดธรรมดาเยอะเท่าไหร่นะ บันได้เลื่อนมากกว่า เราจะพอได้พักเหนื่อยบ้าง ตรงขึ้นบันไดเลื่อน และอาจไปเจอบันไดที่เดินบ้าง สลับกัน อยู่ตรงนั้น ทุกคนจะเดินเร็ว รีบเดิน ดูวุ่นวายมาก เราจะมีพลังงานที่จะทำได้ เราจะรีบเดินเหมือนคนอื่น รีบเดิน รีบยก ขึ่นลงบันได ไม่โอ้เอ้  ไปอยู่ตรงนั้นแล้ว สำหรับเรานะ  energy มันจะมาเอง  คนอื่นเค้าเดินคล่องแคล่วมาก รีบด้วย เราก็ไม่มีอารมณ์ เดินอย่างเอื่อยๆอืดอาด เราจะพยายามทำจนได้ ทำได้แล้วภูมิใจนะ  

เราพยายามมองหาลิฟท์ เห็นป้ายลิฟท์ตรงไหน รีบลากกระเป๋าไปทันที เข้าลิฟท์ได้เหมือนได้ขึ้นสวรรค์ ได้พักเหนื่อยหน่อย
 

ขามาสนามบิน นั่งรถบัสลีมูซีนสนามบิน สะดวก ไม่ต้องยกกระเป๋าหลายรอบ  ที่ไม่ได้นั่งบัสขามาโรงแรมเพราะไปถึงมืด ไม่ทันรถรอบสุดท้าย  รถบัสเข้าโรงแรมรอบสุดท้าย 18.30 น.( ดูในตารางรถ ใน web ที่มีบอก)

ภาพโรงแรม ที่พัก เลือกที่นี่ เพราะราคาย่อมสุด  ในที่พักของดิสนีแลนด์
  :

 ภาพ รถไฟมิกกี้เม้าท์ วิ่งวนในบริเวณ ดิสนี่แลนด์ และที่พัก ในส่วนของดิสนีแลนด์รีสอร์ท  ในรถไฟน่ารักมาก เรานั่งมา สถานีรถไฟ JR  เพื่อไปเที่ยวในโตเกียว ( ต้องซื้อตั๋ว ไม่ฟรี  ถ้าอยากฟรี นั่งรถบัสของรีสอร์ท จากที่พักมา สถานีรถไฟ JR  )


 

ใครกำลังตัดสินใจ ไปเองดีหรือเปล่า อ่านรีวิวเยอะๆ ไปเองเลย  สนุกๆๆ แน่นอน  💪 

👉ไปญี่ปุ่น ใช้เนทแบบไหนดี https://myparewa.blogspot.com/2017/03/blog-post_31.html

👉อ่านเตรียมตัว ตะลุยเจแปนครั้งแรก https://myparewa.blogspot.com/2016/12/blog-post.html

👉อ่านเที่ยวญี่ปุ่นเองครั้งแรก https://myparewa.blogspot.com/2017/03/blog-post.html

👉อ่านเที่ยวญี่ปุ่นเองครั้งแรก ตอน 3 https://myparewa.blogspot.com/2017/03/2.html

เที่ยวญี่ปุ่นเองครั้งแรก

ไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยเองมาครั้งแรก  มารีวิวการเที่ยวครั้งนี้เผื่อใครสนใจนะ  สรุปทริปนี้ ตัดสินใจไปฮอกไกโดเพราะอยากพาเพื่อนๆไปดูหิมะ และเป็นช่วงจะมีเทศกาล snow festival พอดี   ไปลงสนามบินนาริตะก่อน พัก 2คืน เที่ยวในโตเกียว พักที่พักในเขตดิสนีแลนด์รีสอร์ตเนื่องจากราคาย่อมกว่าพักในตัวใจกลางโตเกียวหน่อยและบรรยากาศดีมาก ติดทะเล มองเห็นภูเขาฟูจิลิบๆ นั่งรถไฟของดิสนีแลนด์ชมบรรยากาศรอบๆดิสนี่ย์แลนด์
 🔹ในโตเกียวไปวัดโคมใหญ่ที่ใครๆต้องไปถ้ามาโตเกียว ซื้อของกิน ห้ามเดินกิน กินให้เสร็จที่ร้านค่อยเดินต่อ  

🔹ไปฮอกไกโด โดยเครื่องบินสายการบิน Vanila (เครือข่ายของ ANA) เข้าโดเรมอนpark ในสนามบิน New Chitose , Hokkaido ค่าเข้าคนละ 600 เยน   

🔹 ไป หอนาฬิกาในซัปโปโร อาคารเดียวเล็กๆไปถ่ายรูปแล้วก็กลับ เดินไปจากที่พัก คนอื่นเค้ามากันก็เลยมาบ้าง  

🔹ไป Chocolate factory ที่มีชื่อเสียง หลายๆคนที่มาซับโปโรต้องไปชม การเดินทางโดยรถไฟใต้ดิน แล้วเดินไปต่อ 2-3บล็อคแล้วแต่ออกทางไหน ถ้าออกทาง exit5 ออกมาเดินต่ออีกหน่อยก็จะเห็นตัวอาคาร

🔹 ไป หอคอย TV tower ในเมือง ซัปโปโร เสียค่าขึ้นไปชมวิวด้านบน พักแถว Susukino หรือ Odori เดินไปได้เลย

🔹ไป โอตารุเมืองน่ารักๆที่มีคลองโอตารุ หนังหลายๆเรื่องมาถ่ายที่คลองนี้  

🔹ไปดู พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีที่โอตารุ มีนาฬิกาไอน้ำที่หลายๆคนต้องมาถ่ายรูป  เสร็จแล้วแวะนั่งพักกินกาแฟร้านกาแฟเล็กๆด้านข้าง เดินขึ้นบันไดไปชั้น2บรรยากาสน่ารักดี ( ร้านดูเก่าแก่ เงียบๆเล็กๆ จะมีอีกร้านใหญ่กว่าเข้าไปแล้วไม่ชอบบรรยากาศเลยมาร้านนี้) 

🔹ร้านชาเขียว ที่โอตารุ ตัวร้านสีเขียวทั้งร้าน คนแน่นมากเราเลยเดินไปต่อแถวบ้างทั้งที่ยังไม่รู้จะซื้ออะไรตอนเข้าไปต่อแถว เค้าต่อกันก็เลยต่อบ้าง ขนมแพงมากกกกกก เมนูไอติม เครื่องดื่ม ไม่ใส่น้ำตาล จืดมากก มีน้ำเชื่อมวางไว้ให้ใส่เองถ้าต้องการ

🔹 มาโอตารุต้องกินซูชิ ร้านไหนๆก็เหมือนกันสดหมด ราคาโดยเฉลี่ยประมาณ คนละ เกือบสามพันเยน เลือกร้านที่อยากเข้าตามสะดวกพอใจเลย ซูชิสดทุกร้าน   

🔹 ไปดูหิมะและชมวิวเมืองซัปโปโร ที่ ภูเขาโมอิวะ Moiwa ในซัปโปโร นั่งรถรางไป ค่ารถราง170เยน ตลอดสาย  ไปต่อรถShutter bus รับส่งไปทางขึ้นกระเช้าฟรี ขึ้นลิฟท์ไปชั้น4 ซื้อตั๋วค่าขึ้นกระเช้า คนละ1700 เยน เป็นที่ที่ประทับใจที่สุด เดินทางไม่ไกล อยู่ในตัวเมืองเลย แนะนำว่าน่ามาที่สุดถ้ามา Sapporo ถ่ายรูปออกมาภาพสวยงาม มีพื้นหลังเป็นหิมะขาวโพลนเต็มไปหมด บนนี้มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ มีคำแนะนำว่า มานั่งร้านอาหารชมวิวเมืองซัปโปโรตอนกลางคืน จะเห็นแสงไฟในเมืองสวยงามมาก  เตรียมกุญแจไปคล้องด้านบนถ้าใครอยากคล้องกุญแจ

🔹ไปลานหิมะ ที่ Tsu dome ซัปโปโร เป็นลานเล่นหิมะแบบเด็กๆ นั่งรถไฟใต้ดิน ลงสถานีสุดท้าย แล้วต่อรถบัสจากสถานีรถไฟใต้ดินไป Tsu dome ค่ารถบัสคนละ 100 เยน ต่อเที่ยว

 🔹ร้านบุปเฟ่ ขาปูชื่อดัง(มาก)ในซัปโปโร ร้าน Nanda ควรจองก่อนเพื่อมั่นใจว่าจะมีโต๊ะ ถ้าไม่จองควรไปเร็วๆ ก่อนเวลาอาหารเย็นที่คนทั่วไปจะไปกัน  ถ้าหลังห้าโมงเย็นคนจะทยอยมา แป๊บเดียวแน่นมาก ค่าบุฟเฟ่ ค่อนข้างสูง แต่เค้าว่ากันว่าปูสดและใหญ่มาก ถ้าจะกินเฟ่ปูต้องมาที่ร้านนี้ ๆคนละ 5300 เยน รวมเครื่องดื่ม มีเวลากินได้ 100 นาที พักที่ Susukino , Odori เดินไปได้ อยู่ใจกลางย่าน Susukino

🔹 ค่ากิน ค่าที่พัก แล้วแต่เราเลือกกินอะไร  
ถ้าอยากประหยัดเข้าร้านสะดวกซื้อ ซื้อไว้กินตอนเช้าก่อนออกเที่ยว
 ตอนเย็นถ้าเหนื่อยอยากกลับที่พัก ซื้ออาหารกล่องจากร้านสะดวกซื้อมากินที่ที่พัก ประหยัดได้ด้วย  มื้อกลางวันไปเที่ยว ที่ต้องกินข้างนอก จัดเต็มไปหนึ่งมื้อ  อยากจัดเต็มเข้าร้านตามที่มีรีวิว 

ที่พักอยากประหยัดเลี่ยงช่วงเทศกาล นอนที่พักแบบโฮสเทล ถ้าอยากประหยัดมากเลือกแบบห้องน้ำรวม ประหยัดแบบสะดวกสบายหน่อย เลือก โฮสเทลแบบห้องน้ำส่วนตัว ใกล้สถานีรไถฟJR รถไฟใต้ดิน เลี่ยงช่วงเทศกาล ช่วงเทศกาลห้องแพงแน่นอน และแพงขึ้นมาก

มาเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองง่ายๆครั้งแรก ที่ที่น่าสนใจ แนะนำมา ฮอกไกโกจ้ะ ได้เห็นหิมะด้วยนะเออ✌🏻

ใครกำลังตัดสินใจ ไปเองดีหรือเปล่า อ่านรีวิวเยอะๆ ไปเองเลย  สนุกๆๆ แน่นอน  💪 

👉ไปญี่ปุ่น ใช้เนทแบบไหนดี https://myparewa.blogspot.com/2017/03/blog-post_31.html

👉อ่านเตรียมตัว ตะลุยเจแปนครั้งแรก https://myparewa.blogspot.com/2016/12/blog-post.html

👉อ่านเที่ยวญี่ปุ่นเองครั้งแรก https://myparewa.blogspot.com/2017/03/blog-post.html

👉อ่านเที่ยวญี่ปุ่นเองครั้งแรก ตอน 3 https://myparewa.blogspot.com/2017/03/2.html