Sunday, October 27, 2013

C box

วันนี้ เอา กล่องข้อความC box ออกนะจ้ะ
กลัวฝรั่งพาไวรัสมาน่ะ
 
ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านและฝากข้อความไว้
 
อยากให้เล่าเรื่องอะไรเขียนในคอมเม้นท์ได้เลยน๊า
 
 
ช่วงนี้ว่างมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
 
ไปจนถึง สิ้นเดือนหน้านู่นล่ะ
 
Have a nice day.


I-864

เอกสารชุดของ Sponsor หรือเอกสารชุด I-864 นี้ เรียก Affidavit of Support หรือ I-864 AOS Package

Purpose of Form :To show that the applying immigrant has enough financial support to live without concern of becoming reliant on U.S. government welfare.

ก่อนจะเลือกใช้แบบฟอร์มไหน ศึกษาในนี้นะ

Preparing Affidavit of Support Forms http://travel.state.gov/pdf/AOC_procedures.pdf

เอกสารที่เกี่ยวข้องมีอะไรบ้าง


I-864http://www.uscis.gov/files/form/I-864.pdf
ถ้าเป็นไปได้ แบบฟอร์มนี้ควรพิมพ์จากคอม และ ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่
แต่ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร
ใช้หมึกดำกรอกด้วยลายมือตัวเอง
Image

ดูขั้นตอน ทั้งหมดในนี้
http://www.visajourney.com/wiki/index.php/LingChe_NVC_ShortCut


Tax return : ขอTax return transcriptได้จาก IRS โทรไปขอได้ ฟรีย้อนหลัง 3ปี http://www.irs.gov/newsroom/article/0,,id=105370,00.html

W2 ใบนี้ได้มาจากที่ทำงาน  : ถ้าทำงานมีนายจ้าง ใบนี้ นายจ้างจะให้มาทุกปี
เพื่อเอาไปแสดงตอนเสียภาษี ว่าทำงานได้รายได้เท่าไหร่ต่อปี หักภาษีจากที่ทำงานไว้แล้วเท่าไหร่

Employment letter http://www.visajourney.com/wiki/index.php/Employment_Letter

Bank statement (ไม่จำเป็น )

Cover letter (ไม่จำเป็น ) http://www.visajourney.com/wiki/index.php/I-864_Cover_letter

เอกสารทั้งหมดในชุดนี้ ไม่ต้อง Notary  (ใช้สำเนาได้)
ถ้าใช้ Joint sponsor แยกเอกสาร Joint sponsor ตามด้านบนนี้อีก 1ชุด
ส่งไปพร้อม เอกสาร ของ Sponsor หลัก
Joint sponsor ต้องแสดง ความเป็น US Citizen หรือ Permanent Resident status ด้วย

ทั้งหมดนี้จะส่งได้เมื่อ จ่าย Fee $88 และได้ Barcode online
ค่าธรรมเนียมอาจเปลี่ยนแปลง 
ค่าธรรมเนียมที่เราต้องจ่ายจะบอกมาในใบแจ้งให้จ่ายเงิน  ไม่ต้องกลัวจ่ายผิด จ่ายไม่ครบ

เตรียมเอกสารข้างบนทั้งหมดเสร็จ อย่าลืม แนบ Barcode ไปด้วยนะ 

หน้าตาใบBarcode นี้ ในปี 2009
(แต่ละปีหน้าตากระดาษนี้มีการเปลี่ยนแปลงข้อความจ้ะ )

Image
อีกหนึ่งคำถามที่เจอเรื่อยๆ
ถ้าSponsorหลัก ไม่จำเป็น ต้องยื่นเรื่องเสียภาษีอาจจากไม่มีรายได้เลย หรือรายได้ไม่ถึง
จะต้องทำอย่างไร
ไปอ่านเจอมาว่า กรณีที่Sponsor หลัก ไม่ต้องยื่นเรื่องเสียภาษี ไม่มีTax returnมาแนบ กับ I-864
ให้เขียนจดหมายอธิบายไป ชี้แจงเหตุผล และแนบสำเนาจากIRSที่ชี้แจงว่าเราอยู่ในกลุ่มที่ไม่ต้องทำเรื่องเสียภาษี (แต่ต้องกรอกแบบฟอร์มI-864)http://travel.state.gov/visa/immigrants/info/info_3183.html


และหา Joint sponsor ใช้เอกสาร Joint sponsor ตามปกติ

แต่กรณีที่จำเป็นต้องเสียภาษี และไม่ได้เสียมาหลายปีแล้ว
ถ้าจะเป็น Sponsor ทำเรื่องรับรองให้คนที่ขอวีซ่าถาวร ต้องทำเรื่องเสียภาษีย้อนหลัง ข้อมูลหาเพิ่มจาก web IRS ด้านบน

Before Mailing I-864 to the NVC

Image
http://travel.state.gov/pdf/AOC_procedures.pdf

คำแนะนำในขั้นตอนนี้

Information about Affidavit of Support http://travel.state.gov/visa/immigrants/info/info_3730.html

Affidavit of Support Instructions http://travel.state.gov/visa/immigrants/info/info_3197.html

Affidavit of Support, Form I-864, Checklist http://travel.state.gov/visa/immigrants/info/info_3200.html

Joint Sponsor’s Documents Checklist (if applicable)http://travel.state.gov/visa/immigrants/info/info_3202.html

คำถามI-864 Affidavit of Support (FAQs) http://travel.state.gov/visa/immigrants/info/info_3178.html

Subject - Verb Agreement

จำไม่ได้ ว่าเอามาลงยัง

อันนี้คือการบ้านตอนไปเรียน  ESL

มีประโยคมา ต้องรู้ว่าแต่ละคำ  ทำหน้าที่อะไรในประโยค 

อันไหนเป็น subject หลักของประโยค อันไหนเป็น verb
และ verb ต้องเป็นไปตาม subject      และ subject  เป็นเอกพจน์ หรือพหูพจน์

ดูเหมือนเรียนพื้นฐานมากแต่จริๆง จำได้ไม่หมดนะ 
ใน subject ที่ดูเหมือนคลุมเครือ จะเป็นเอกพจน์หรือ พหูพจน์ดี
verb ที่ตามมา เติม s หรือไม่เติมดี   เรายังมีใช้ผิดอยู่ จำได้ไม่หมด

เนื้อหาที่เรียนในเรื่องนี้ คือ  Subject - Verb Agreement

http://www.grammarbook.com/grammar/subjectverbagree.asp

ถ้าเราทำได้คล่องจะช่วยในการสร้างประโยคถูก

เอาไปใช้ในการสอบ GED ด้วยนะ 

เปอร์เซ็นต์ เศษส่วน ก่อนนี้เราไม่เคยรู้ ไม่เคยสนใจว่าต้องใช้ไง

ตัวอย่างนี้คือประโยคที่ถูกต้อง

Fifty percent of the pie has disappeared. จำนวนเปอร์เซ็นต์ของพายหนึ่งชิ้นเป็นเอกพจน์

Fifty percent of the pies have disappeared. แต่ถ้า จำนวนเปอร์เซ็นต์ของพายหลายชิ้นเป็นพหูพจน์


One-third of the city is unemployed. city คือ ประธานประโยค เศษส่วนของเมืองเดียวเป็นเอกพจน

One-third of the people are unemployed. people คือ ประธาน เศษส่วนของ คนหลายคนเป็นพหูพจน์

โอ๊ย จำยากอ่ะ ใช้ไม่ถูกหรอก ไม่ได้ใช้ด้วยแหละ



Friday, October 25, 2013

DS260

ขอแปะไว้ก่อนนะ

Please correct all areas in error as indicated below. Once you have finished, click ‘Save’ or ‘Next’ to continue completing your online application form.
  • Street Address (Line 1) is invalid. Only the following characters are valid for this field: A-Z, 0-9, #, $, *, %, &, (;), !, @, ^, ?, >, <, parens (), period (.), apostrophe ('), comma (,), hyphen (-), and space.
  • City has not been completed.
  • State/Province has not been completed.
  • Postal Zone/ZIP Code has not been completed.
  • Country/Region has not been completed.
  • From Date is invalid. Month and Year are required.
  • The question: Have you lived anywhere other than this address since...?
  • Primary Phone Number has not been completed.
  • Secondary Phone Number has not been completed.
  • Work Phone Number has not been completed.
  • Email Address has not been completed.

Thursday, October 24, 2013

ไม่มีรายได้แต่อยากมีเครดิตสกอร์

วันนี้ไปให้ความเห็นคำถามเรื่องการสร้างเครดิตเครดิตสกอร์ในขณะที่ยังไม่มีรายได้

คัดลอกมาวางที่นี่ด้วย

เผื่อเป็นแนวทางให้กับเพื่อนๆที่สนใจ
ทำบัตรเครดิต โดยให้สามีมาเซ็นชื่อร่วมเนื่องจากเรายังไม่มีรายได้

 ไม่มีประวัติเครดิตสกอร์เลย  
คือเหมือนทำร่วมกัน อาศัยเครดิตเค้ามาพ่วงทำบัตรเครดิตเรา 
โดยมีเราเป็นชื่อเจ้าของบัตรหลัก 
พอสะสมเครดิตสกอร์ไปซักระยะสามารถเอาชื่อแฟนออกได้ 
แตเราไม่เอาออกเอาเก็บไว้ใช้เป็นหลักฐานความสัมพันธ์ตอนกรีนการ์ด10ปีและสมัครUS Citizen
 ปัจจุบันยังไม่เอาชื่อสามีออกเพราะไม่มีผลอะไรต่างจากตอนนี้ 
ทุกวันนี้ไม่มีรายได้เหมือนเดิม เอาเงินจากสามีมาจ่ายบิลอยู่แล้ว 
ประวัติเครดิตสกอร์เค้าไม่เคยเสีย ดีกว่าเราด้วย จะมีชื่อเค้าหรือไม่มีไม่แตกต่างอะไร 
เค้ามีบัตรเครดิตของเค้าต่างหาก ไม่ได้ใช้บัตรร่วมกับเรา 
แตกต่างจากแฟนทำบัตรเสริมให้ ตรงที่อันนี้เราเป็นเจ้าของบัตรหลัก แฟนน่ะมาร่วม  
จะได้บัตรเครดิตมา2ใบหมายเลขเดียวกัน ชื่อเรากับแฟน แต่แฟนไม่เคยใช้
เราใช้ของเราคนเดียว วงเงินเริ่มจากนิดๆ ค่อยๆขอเพิ่มตามระยะเวลา 
ตัวแฟนใช้บัตรเครดิตเดิมของเค้าที่มียอดวงเงินเยอะกว่าบัตรเรา 
ดรเลยเหมือนเป็นเจ้าของบัตรคนเดียว บริหารจัดการเรื่องการใช้จ่ายเอง 
แต่มีชื่อเค้ามาพ่วงในสัญญาที่ทำบัตรเพื่อคำ้ประกัน ประคองเราไปเรื่อยๆ
 ถ้าใครอยากอิสระ พอสร้างเครดิตสกอร์ไปซักระยะก็ขอเอาชื่อแฟนออก 
แต่การมีบัตรเครดิตชื่อร่วมกับแฟนซักใบนี่ดีนะ
 เอาไว้ใช้เป็นหลักฐานตอนทำกรีนการ์ด10ปีและตอนสมัครUS Citizenในอนาคตได้
พอเราต้องการซื้อรถ ก็ซื้อชื่อร่วมกับแฟน (เอาไปเป็นหลักฐานความสำพันธ์กรีนการ์ด10ปีได้ด้วย ) 
รักษาเครดิตให้ดี เราก็จะสร้างเครดิตเครดิตสกอร์เราไปเรื่อยๆ 
ทีนี้ก็จะมีบัตรเครดิตสาระพัดบริษัทส่งมาที่บ้านนำเสนอให้เราสมัคร เยอะมากกก 
แต่เรายังไม่มีรายได้ ยังต้องพึ่งเงินแฟนจ่ายบิลอยู่
 คิดว่าไม่จำเป็นต้องมีบัตรเครดิตใบที่สองเลยยังไม่เคยสมัครเพิ่ม
ไม่รู้เหมือนกันถ้าสมัครไปจะอนุมัติง่ายไม๊ ยังใช้ใบเดียวที่มีชื่อแฟนเซ็นชื่อร่วม

อย่าลืมนึกถึงตอนยื่นกรีนการ์ด10ปีด้วยนะ สำคัญมาก 
ถ้ามีบัตรเครดิตร่วมไว้เป็นหลักฐานความสัมพันธ์ซักอย่างไว้ก็ดีนะ
ถึงเวลาส่งเอกสารจะได้ไม่ปวดหัวจากไม่มีเอกสารอะไรเตรียมไว้เลย


ได้มีบัตรเครดิตได้เอกสารความสัมพันธ์ด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นก2ตัวแน่ะ :)
ปล.หมายเหตุพอมีบัตรเครดิตแล้วศึกษาเรื่องการดูแลเครดิตสกอร์ด้วยนะจ้ะ. 
ถ้าแล้วรูดปื้ดๆๆ อย่างเดียวนกที่ได้อาจตกมาตายเหม็นเน่ามียาพิษในตัวน๊าาาา

Wednesday, October 23, 2013

หนังสือคู่มือGED

รีวิวหนังสือGEDที่ซื้อมา

ทุกเล่มก็มีเนื้อหาดีแหละนะ ถ้าอ่านและจำได้หมดจะดีมากๆ
แต่ว่า เราก็มีเล่มที่ชอบ เล่มที่เฉยๆนะ
ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาเท่าไหร่เพราะทุกเล่มมีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์หมดแหละ
แต่ที่ชอบบางเล่มคือชอบที่อ่านสบาย หยิบจับถนัดมือ ตัวหนังสือพอดีมากกว่า

ครั้งแรกเลย เรายังไม่คิดสอบจริงจังนะ แค่คิดว่าถ้าเราทำได้ก็น่าจะดี
อยากทำเพื่อฝึกภาษาแค่นั้นเองที่ต้องการ
ไปร้านหนังสือมีหนังสือGED ขายเยอะแยะเลย
ลองเอามาดูเล่มหนึ่งละกัน ว่ามันเกี่ยวกับอะไรจะพอไหวรึเปล่า
ตอนเราเลือกเราเปิดๆๆดู คล้ายๆกันหมด จะมีแนะนำเบื้องต้นแล้วก็เนื้อหาตัวอย่างข้อสอบเฉลย
เราเลือกเล่มใหญ่สุดละกัน ท่าทางเล่มใหญ่จะรวมเนื้อหาเยอะดี

เล่มละ$14.99 ถ้าจำไม่ผิด เล่มหนามากกกก ตัวหนังสือดูจะอ่านง่าย
เอามาเปิดคร่าวๆ มี5วิชา ลองอ่านๆไป โอ๊ยต้องแปลแทบทุกตัว 
เลยไปเริ่มที่เลขก่อน เพราะเราถนัดเลข อ่านสรุปและลองทำข้อสอบท้ายเนื้อหาไปทีละนิด

อ่านบ้างขี้เกียจบ้าง อ่านเลขอย่างเดียว ไม่แตะวิชาอื่นเลยเพราะมันยาก สำหรับเรา

แล้วไฟก็มอด ทิ้งไปนานมาก หลายเดือน อาจเป็นปี 

จนมาถึงวันที่ลงเรียน จริงจัง เลยหยิบมาอ่านอีกรอบ
รอบนี้ตั้งใจจะไปสอบแล้วล่ะ

ตอนมาใหม่ๆ บอกตัวเองว่าจะสอบให้ได้ภายในสองปีที่มาอยู่นี่
สองปีผ่านไปยังไม่ได้อะไรเลย เลยตั้งใจจริงจังไปลงเรียนดีกว่า
หลังจากนั้นถึงได้หยิบหนังสือมาอ่านอีก

อ่านแต่เลขเหมือนเดิม
หัดทำข้อสอบไปทุกข้อ 
ยังอยากหัดอีก เพราะเรามีปัญหาอ่านโจทย์ภาษาอังกฤษตีความไม่เข้าใจว่าต้องทำอะไร

เลยไปซื้อคู่มือมาอีกเล่ม เอามาอ่านเฉพาะตัวอย่างข้อสอบน่าจะเกือบทุกข้อนะ

ยังไม่สะใจ คือยังไม่มั่นใจ อยากเจอตัวอย่างคำถามเยอะๆ
จะได้ชินกับการตีความคำถาม เพราะโจทย์ศัพท์ภาษาอังกฤษเราอ่านแล้วยังตีความมีปัญหา
พอตีความไม่ถูกเราก็จะแปลคำถามผิดเลือกเอาสูตรมาใช้ผิด(ในวิชาเลข)
เลยไปซื้ออีกเล่ม เป็นรวม GED 5 วิชา

แต่อ่านแต่เลขอย่างเดียวเหมือนเดิม
ตั้งใจว่าเรารู้สึกถนัดเลขขอทำคะแนนวิชาเลขดีสุดไว้ละกัน
เอาไว้ช่วยวิชาอื่นที่อ่านแล้วมึนตึ้บ
คราวนี้เลือกซื้อเล่มเล็กลง เพราะกะว่าจะได้หยิบติดตัวไปอ่านด้วยง่ายๆ
เราชอบไปนั่งเล่นที่สตาร์บัก เอาหนังสือไปอ่านด้วย

แล้วก็ต่อด้วยอีกเล่ม
แต่ละเล่มคล้ายๆกัน แนะนำแนวทาง
สรุปเนื้อหา ตัวอย่างข้อสอบพร้อมคำอธิบาย

สำหรับเราคิดว่าแต่ละเล่มคล้ายกันหมดเลยตามที่เราบอก
แต่เล่มไหนดี เราเลือกจากขนาด เหมาะมือ เปิดง่าย 
การจัดตัวหนังสือสวยงาม เปิดเข้าไปอ่านรู้สึกตัวหนังสือสบายตาเราก็เอาเล่มนั้นแหละ

แต่ละเล่มก็จะรวบรวมตัวอย่างข้อสอบไม่ซ้ำกัน
ทุกข้อเป็นแนวทางในการทำข้อสอบได้ทั้งนั้น

ยิ่งอ่านหลายเล่มก็จะยิ่งเจอตัวอย่างเยอะ
โอกาสทำคะแนนก็เยอะขึ้นเพราะเราเห็นตัวอย่างมาว่าถามแบบนี้ตอบยังไง
เพราะคำถามไม่ใช่ภาษาบ้านเรา
อ่านตัวอย่างมามากคุ้นมากก็จะทำได้มากขึ้น

เราไปดูหนังสือที่ร้าน Barn & Neble ที่เดียวตลอด
ถ้าเลือกซื้อจากอะเมซอนหรือร้านหนังสืออนไลน์อาจถูกกว่า

เล่มที่ซื้อราคาประมาณ14-20 ซื้อทีละเล่ม 
ก็เลยดูไม่เยอะอะไรมาก และเสียเงินเพื่อความรู้เลยไม่เสียดาย

รวมกันก็ดูหลายตังค์  
แต่ถ้าไม่ลงทุนซื้อหนังสือ เราก็ไม่มั่นใจที่จะไปสอบน่ะ

ถ้าสอบไม่ผ่านต้องสอบใหม่ วิชาละ 30$ 

เราขอจ่ายค่าหนังสือเพิ่มแล้วไปสอบอย่างมั่นใจดีกว่า
เพราะทุกครั้งที่อ่านเราได้ทบทวนภาษาอังกฤษไปด้วย
เราได้ประโยชน์จากเงินที่เสียไปน่ะ 

และใบประกาศที่ได้มามีค่ามากเลย
แม้จะไม่ได้เอาไปใช้อะไรแต่มันก็มีค่าทางใจมาก
เป็นสิ่งรับรองความพยายามของเรา

ตัวเราภูมิใจถึงแม้ไม่ได้ใช้

พ่อแม่ก็ภูมิใจเพราะไม่รู้ว่าอะไรมาก ^^
รู้แต่ว่าลูกได้ใบประกาศมา ยิ้มหน้าบานภูมิใจกับลูกตัวเอง


ความสำเร็จชิ้นเล็กๆ ที่คนอเมริกันบางคนยังอาจทำไม่ได้นะ ทำไมจะไม่ภูมิใจล่ะ

หนังสือที่เราซื้อมาอ่าน
บางเล่มอ่านเกือบทุกหน้า
บางเล่มอ่านแต่ตัวอย่างข้อสอบ 
เล่มแรกนี่แทบไม่ได้อ่านเลย ลืมว่ามีเล่มนี้น่ะ
ไม่ได้หยิบมาดูเลยมั้ง



เล่มนี้ลืมไปเลยว่าซื้อมาอ่าน น่าจะไม่ได้อ่านเลยมั้ง ^^ หนังสือแนะนำเกี่ยวกับการเขียน การสร้างประโยค




เล่มนี้ตั้งใจซื้อมาอ่านว่าGEDเป็นไงเล่มแรก
ตอนนั้นยังไม่คิดสอบจริงจัง กะเอามาดูก่อนว่าจะไหวไม๊
อ่านแล้วทิ้งไปนานมาก แล้วกลับมาอ่านใหม่
เนื้อหาครอบคลุมดี ตัวหนังสืออ่านง่าย แต่ เล่มใหญ่มากพกติดตัวไม่สะดวก
เป็นเล่มที่เราอ่านทำแบบฝึกหัด น่าจะหมดเล่ม เพราะเปิดไปมีรอยโน้ตรอยทำข้อสอบมีร่องรอบเกือบทุกหน้า
ภูมิใจมาก ตอนเรียนที่ไทยไม่เคยอ่านหนังสือจริงจังแบบนี้เลย
เล่มนี้ที่เราอ่านบ่อยเพราะถ้าอ่านอยู่บ้านมันหยิบจับอ่านสะดวก เล่มใหญ่ตัวหนังสือชัด






เล่มนี้ซื้อมาเพราะอยากหัดข้อสอบหลากหลาย กะจะจำข้อสอบเอา
เพื่อเจอคำถามคล้ายเดิมจะจำคำตอบตอบเลยเลยเพราะอ่านแล้วทำความเข้าใจแล้วจำทำยากจัง





ลองทำข้อสอบในหนังสือที่มี จับเวลา ยังไม่ผ่าน เลยไปซื้อเล่มใหม่มาอ่านข้อสอบและจำเพิ่ม
ทำความคุ้นเคยกับข้อสอบเพิ่ม 
เลือกเบ่มนี้เพราะค่อนข้างเล็กสุดในที่มีให้เลือก (แต่ไม่เล็กมากนะและหนา)
ตั้งใจจะพกติดตัวไปอ่านที่ร้านกาแฟ
ตัวหนังสือเล็กตามหนังสือ ไม่ค่อยชอบ







เล่มนี้เป็นวิชาสังคม
เอามาท่องคำถามคำตอบ
เพราะจำเรื่องราวประวัติศาสตร์ทั้งหมดไม่ไหว
ขี้เกียจด้วยแหละ
จำคำถามคำตอบเลยละกัน
(ในหนังสือรวมจะมีตัวอย่างข้อสอบแต่ไม่มากพอที่จะทำให้เราสอบผ่านได้เพราะเราขี้เกียจจำเนื้อหาไงเลยมาเน้นจำข้อสอบเลยต้องหาข้อสอบอ่านเยอะๆเอา)

ทุกเล่มประมาณเล่มละ15-19$






เรียงให้ดูขนาด
เราอ่านเล่มกลางมากสุด
เพราะเล่มใหญ่ตัวหนังสืออ่านง่าย
เนื้อหาสบายๆบอกไม่ถูก
อ่านแล้วชอบน่ะ
เพราะในแต่ละวิชาจะมีเนื้อเรื่องให้อ่าน
บางเล่มก็ยากไป พอยากไปมันก็ทำให้เราเบื่อไม่อยากอ่านต่อน่ะ

ถ้าได้หนังสือมาอ่านคำแนะนำบทแรกๆด้วยนะ
จะมีแนะนำเรื่องการเตรียมตัว การจัดตาราง การเตรียมตัวสอบ เทคนิคต่างๆ

ดีมากๆ เอามาใช้ในวันสิบจริงได้หมดเลย

เอาใจช่วยทุกคนที่กำลังสนใจอยากได้GEDมาครองนะ
เคล็ดลับก็คือ ตั้งใจ พยายาม อ่านตัวอย่างข้อสอบให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
ตัวอย่างในอินเตอร์เนทก็มี แต่เราไม่ชอบ รู้สึกว่าอ่านไม่ถนัดเท่าอ่านในหนังสือ

ถ้าสอบไม่ผ่านรอบแรกอย่าพึ่งท้อ
คนอเมริกันเองก็ไม่ใช่ว่าจะผ่านง่ายๆ 
หลายๆคนสอบรอบแรกไม่ผ่าน  
ถ้ามันง่าย คนที่ไม่ได้เรียน high school คงไปสอบเอาวุฒิกันเกือบทถกคนแล้วล่ะ
แต่จริงๆมันไม่ถึงกับง่าย มันต้องใช้ความพยายามพอควร  โดยเฉพาะเราไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เกิดก็ต้องพยามยามมากหน่อย

อ๊อ Writing ต้องใช้การฝึกฝนและมีความรู้เรื่องการเขียนเรียงความ
การประกอบประโยคที่ถูกต้อง
ใครที่คิดว่าตัวเองอ่อนเรื่องนี้ แนะนำว่าไปลงเรียนซักคอร์สจะได้หลักการเขียนดีๆมาใช้
ทั้งใช้ตอนสอบและใช้กับประโยคทั่วไปในชีวิตประจำวัน
เราจะสร้างประโยคถูกมากขึ้น

สอบWriting ต้องเขียนเรื่องราว1เรื่องตามหัวข้อที่ให้มา
ไม่มีchoiceมาให้เดานะจ้ะ 

ถ้าไม่ได้ก็คือไม่ได้ และไม่ผ่านGEDน่ะ แม้วิชาอื่นจะทำคะแนนได้มากแค่ไหนก็ตาม 
ต้องมีคะแนนผ่านทุกวีซ่าถึงจะได้ใบประกาศจ้ะ

ขอให้ประสบความสำเร็จทุกคนนะ
สู้ๆ
ใครอยากให้เขียนเรื่องอะไร คอมเม้นท์ที่ด้านล่างได้นะจ้ะ
ถึงไม่ค่อยได้เข้ามาที่นี่ แต่ได้รับทุกข้อความ อ่านทุกข้อความ

ยินดีเอาประสบการณ์มาบอกต่อ
ดีใจมากๆถ้าประสบการณ์เราจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นด้วย

Have a nice day ja.
 
อ่านเรื่อง  อื่นๆ ที่เขียนไปแล้ว    คลิ๊กไปอ่าน

Saturday, October 19, 2013

Thursday, October 10, 2013

ประสบการณ์การเดินทางกลับไทยด้วย สองพาสปอร์ต

เราเดินทาง ครั้งล่าสุด ใช้ พาสปอร์ตอเมริกัน ใสสะอาด เล่มใหม่
และ มาทำพาสปอร์ตไทยเล่มใหม่ ใสสะอาด เหมือนกัน ไม่มีปัญหาตลอดการเดินทางไปกลับนะ
ใช้พาสปอร์ตไทย ที่ไทย คือ ที่ ตม.ไทย ขาเข้าและออก และ ตอนเช็คอินที่สายการบินที่ไทย

นอกนั้น คือตอนเช็คอินที่อเมริกา และ ระหว่างต่อเครื่องที่ต่างประเทศ   ยื่นพาสปอร์ตอเมริกา

( บางคน ซื้อตั๋วไปกลับมาอยู่ไทยนาน อาจเจอ คำถามตอนเช็คอินที่อเมริกาว่า เข้าไทยด้วยวีซ่าอะไรก็ตอบไปว่ามี พาสปอร์ตไทย ไม่ต้องกังวลเรื่องถือ2 พาสปอร์ต จนท.แค่ถามเพื่อคัดกรอง การเข้าประเทศไทยขั้นต้น ไม่ได้ ตรวจจับการครอบครอง 2 พาสปอร์ตจ้ะ )
บางคนอาจใช้พาสปอร์ตไทยเช็คอินที่อเมริกา จะได้ไม่ต้องตอบคำถามนี้ แต่พาสปอร์ตไทยเราจะหมดอายุในไม่ถึง 6 เดือน  เราเลยเลือกหยิบพาสปอร์ตอเมริกันมาใช้ ตอนเช็คอินและระหว่างต่อเครื่องต่างประเทศ


ตอนเช็คอินที่ ไทย ขาออก ถ้าไม่อยากเจอคำถามว่า เข้าอเมริกาด้วยวีซ่าอะไร และไม่อยากบอกว่า เรามี2 พาสปอร์ต ก็ ใช้พาสปอร์ตอเมริกันเช็คอินก็ได้ จะได้ไม่ต้องตอบคำถามนี้ แต่เราเลือกใช้พาสปอร์ตไทย เพราะอยากได้ใบขาออกขาเข้าตอนเช็คอิน
จนท.ก็ถามขั้นกรองการเข้าประเทศอเมริกาว่า เข้าอเมริกามีด้วยวีซ่าอะไร เราตอบไปว่า มีพาสปอร์ตอเมริกัน จนท.ขอดูก็ยื่นให้ดู ดูเสร็จ จนท.ก็ให้คืนไม่ได้มีปัญหาอะไร

ที่ ตม.ไทย จุด ตรวจพาสปอร์ต  เราเลือกที่จะ เข้าช่องอัตโนมัติ ทั้งขาเข้าขาออก
 อาจไม่มีคนใช้บริการเลย ทุกครั้งจะเห็นมีคนไปต่อแถวเคาเตอร์ที่มีจนท.นั่งตรวจพาสปอร์ตยาวมากเยอะมาก ไม่รู้ทำไมไม่ตรวจกับเครื่องอัตโนมัติ
เราเดินไปที่เครื่องอัตโนมัติที่ในตอนนั้นอาจไม่มีคนใช้บริการได้เลย  ไปถึงจะมีจนท. ยืนคอยช่วยทำให้ หรือทำเองเลยก็ได้ ทำตามหน้าจอบอก  ง่ายมากๆ


ที่ตม.อเมริกาก็ใช้พาสปอร์ตอเมริกัน  ไม่เจอถูกถามทำไมพาสปอร์ตว่างเปล่า ไม่มีระบุว่าไปพักที่ไหนมา หลายๆคนกังวลตรงนี้ จนท.ไม่เห็นถามอะไรเรื่องนี้เลยนะ


หลายๆคน กังวลเรื่องการใช้ 2 พาสปอร์ต หาข้อมูลใน google ดูก่อนใช้ละกัน


ในกรณีใช้2 พาสปอร์ต บางคนไม่สบายใจ ในทางปฎิบัติถ้าจนท.ทราบว่าเรามีสองพาสปอร์ต เราจะถูกยกเลิกสัญชาติไทยหรือเปล่า
จากที่หาข้อมูลมา จนท.ใช้คำว่า อะลุ้มอล่วยให้ใช้ได้    แต่เราต้องยื่นใช้ให้ถูกต้องเพื่อความสะดวกของทั้งตัวเราและจนท.

โดย ณ จุดตรวจเลือกใช้สัญชาติใดสัญชาติหนึ่ง ยื่นพาสปอร์ตที่ต้องการใช้ (และเล่มเดียวกัน ณ จุดตรวจในขาเข้าและขาออก)

บางคนออกความเห็นไว้ว่า  คนใช้สองพาสปอร์ตเพราะอยากเบ่งอวดว่ามีสองพาสปอร์ต
สำหรับไม่เคยมีความคิดนี้ในสมองน้อยๆ ของเราเลย

เราเลือกใช้ 2 พาสปอร์ต ไม่ใช้ พาสปอร์ตอเมริกันเล่มเดียวเดินทาง ทั้งที่ อยู่ไทยไม่ถึง 30 วัน เพราะ เราคิดว่าเรายังเป็นคนไทย  ไม่ได้สละสัญชาติไทย เมื่อคนไทยจะเข้าไทยก็ต้องแสดงพาสปอร์ตไทยสิ  (หน้าตาก็ไทยมากด้วย ไม่อยากแสดงพาสปอร์ตอเมริกันน่ะ  ไม่เข้ากับหน้าตา )
พาสปอร์ตอเมริกันก็เอาไว้แสดง ตอนเข้าอเมริกาเพื่อให้มาอาศัยอยู่อเมริกาได้
เลือกใช้ให้ถูกก็จะไม่เกิดปัญหาจ้ะ

ประเด็นสำคัญที่จะเลี่ยงปัญหาการเดินทางด้วย 2พาสปอร์ตเข้าไทย  
คือ ที่ตม.ไทยขาเข้า ยื่นพาสปอร์ตอะไร ตอนออกจากตม.ไทย ยื่นอันเดิม อย่าสลับเล่มพาสปอร์ตที่ตม.ไทยในขาเข้ากับขาออก อย่างเด็ดขาดด้วยนะ

ข้อมูลจาก เอกชน http://rujirat.com/2009/06/11/%E0%B8%AA ... %E0%B8%B4/

ขอบคุณคุณ ทนายรุจีรัตน์  นะคะ แนะนำเรื่องดีๆไว้เยอะเลย

Monday, October 7, 2013

ประสบการณ์ต่อเครื่องที่ปักกิ่ง


 8 ชม.ที่สนามบินปักกิ่ง เดินไปเดินมาสำรวจสถานที่



หลังจากเดินทางไปไทยแวะมาต่อเครื่องที่นี่ครั้งหนึ่งรู้ละว่าอย่าเชื่อป้าย อาจไม่ใช่ตามนั้นก็ได้
ถ้าจะต่อเครื่องระหว่างประเทศอย่าไปตามป้าย international connecting flight ให้ไปตามป้าย domestic ...จ้ะ
 
และช่องทีี่จะเข้าไปเริ่มขั้นตอนต่อเครื่องใหม่จะเขียนย่อตัวเล็กๆว่า Int'l มองให้เห็นนะ  (ในรูปมีตัวน้อยๆเห็นเปล่า)
ถ้าจะถามใครก็พิจารณาเองว่าจะถามดีไม๊ เชื่อได้ไม๊
เพราะรอบขาไปไทย จากที่ถามมาบอกผิดหลายคนอ่ะ
เดินไปผิดอาคารต้องลากกระเป๋าไปไกลมาแล้วก็ต้องมาที่เดิม
รึว่าอาจผิดที่เราสื่อสารให้เค้าเข้าใจผิดมั้ง

ตรวจSecurityที่จีนเข้มมาก เหล้าขวดใหญ่ๆใส่กระเป๋าเดินทางที่โหลดใต้เครื่องก็ไม่ได้
เห็นถูกยึดไปสองคน  แถวยาวมาก เพราะตรวจแล้วมีปัญหาต้องเปิดกระเป๋าเช็คหลายคนมาก
ใช้เวลาตรวจแต่ละคนนานมาก ผู้โดยสารที่ต่อแถวรอ หน้าตาแต่ละคนมีแต่เซ็งจิตทั้งนั้นเพราะรอนานมาก
กระเป๋าถือก็ตรวจเข้มมาก ตรวจกระเป๋าเรา scanมากกว่า5ครั้ง
ต้องเอาของออกมาแทบทุกชิ้น (ของในกระเป๋าสะพายที่ใส่กระเป๋าตังค์สมบัติติดตัวน่ะ ต้องเอาสมบัติออกมาหมดเลย ไม่รู้สงสัยอะไร)
กลัวแต่จะเอาใส่คืนไม่ครบน่ะ จนท.หยิบเข้าหยิบออก ดูแล้วดูอีก  หลายรอบมาก

ไม่มีที่อาบน้ำฟรีเหมือนที่สนามบินอินชอน เกาหลี
ถ้าจะอาบต้องไปใช้บริการ แบบคิดเป็นชม.
กาแฟสตาร์บักแก้วละประมาณ 8$ OMG!
แพงเพราะอะไรอ่ะ KFC 1 ชุดถูกกว่ากาแฟ 1แก้วอีก งงเลย

ไม่รับเงินดอลล่าห์ ต้องแลกเป็นเงินจีนเท่านั้น
(ที่ ญี่ปุ่น เกาหลี ไทเป รับเงินดอลล่าห์ แต่อาจไม่มีดอลล่าห์ทอน อาจทอนเป็นเงินของประเทศนั้น  เตรียมแบ็งค์ย่อยไปละกัน)
ทุกคนที่ มาต่อเครื่องที่จีน ต้องออกมาด้านนอกทุกคนก่อน (ไม่อยู่ในบริเวณด้านในแล้วไปTransfer เลย)
เพราะฉะนั้น จะต้องผ่าน Immigration ที่ตรวจคนเข้าเมืองที่เดียวกันทุกคน
ไม่ว่าแค่มาต่อเครื่อง หรือ สิ้นสุดที่จีน
(เวลาเดินตามป้ายเลยไม่ใช่ไป ตามป้าย International connecting flight ) 
และ การที่ ต้องไปผ่านการตรวจที่ ตม.จีน เหมือนคนที่จะเข้าพักที่จีน เพราะฉะนั้น ทุกคนต้องเขียนใบเข้าประเทศหมด 
(ที่ ญี่ปุ่น เกาหลี ไทเป ถ้าต่อเครื่องเฉยๆ ไม่ต้องเขียนใบเข้าประเทศ )
ฝรั่ง งง  ทำไมต้องเขียน เปลืองกระดาษ เดินออก เหมือนจะเข้าเมืองอีกนิดเดียวก็ต้องเดินกลับเข้ามา(แต่คนละที่)
 
พอออกจากตรงนี้ เสร็จ ต้องไปหา เคาเตอรฺที่จะเข้าไปเช็คอินใหม่ 
เหมือนผู้โดยสารที่เริ่มต้นมาจากบ้าน เข้ามาในสนามบิน ต้องไปเช็คอินตรงไหนไปตามนั้น
(ถ้าจำไม่ผิด ออกมาแล้ว ขึ้นไปอีกชั้น หรือ ลงบันไดเลื่อนไปหนึ่งชั้นนี่แหละ คนละชั้นกับที่ออกมา)
และ ถึงแม้มีตั๋วมาแล้ว ก็ต้องออกตั๋วใหม่ ตอนเช็คอิน ทำเหมือนพึ่งมาจากบ้านมาเช็คอินน่ะ แล้วก็เริ่มเข้าขั้นตอน ตรวจเหมือนเข้ามาใหม่ จากด้านนอกเลย  จนท.ฉีกตั๋วเดิมทิ้งอย่างไม่มีค่าเลย  ( หน้าตาตอนฉีกแบบใส่อารมณ์มาก เพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน )

เช็คอินเสร็จไปทางไหน ป้ายก็ ไม่มีบอกเลย จะบอก เมื่อไปถึงแล้ว ~_~" 
มีตัวเลข เกทบอก แต่มีไม่ครบ เริ่มต้นที่เลข 50  แล้วเลขก่อนนั้นล่ะ ~_~"
เราเดินไปตามทางที่ไม่มีตัวเลขเกทเรานะ แต่เห็นคนอื่นไปก็ไปตาม 
(ถ้าที่ไทย จะบอกชัดๆ ใช่มะ ว่า เกทอะไรไปทางไหน ซ้ายขวา  ตัวเลขอะไรถึงอะไร   ที่นี่ไม่ใช่จ๊า  เดาเอาว่าน่าจะตรงไปเรื่อยๆ ตามคนอื่น )
 

อนาคตต่อให้ค่าตั๋วถูกแค่ไหนก็คงไม่เลือกมาต่อเครื่องที่จีนแล้วยกเว้นว่าไม่มีเที่ยวบินจริงๆ
สายการบินก็ไม่ดีเลย รถทัวร์
นครชัยแอร์บริการดีกว่าอีกอ่ะ
รถนครชัยแอร์เบาะนวดได้ด้วยสุดยอดเลย

ได้ผ้าห่มที่เพื่อนให้เป็นทีระลึกก่อนกลับ
ห่ม ช่วงไทยไปจีน(เพื่อนให้ เพราะเราเล่าว่า ขามาไม่มีผ้าห่ม) 
บนเครื่องมีแจกแต่ไม่ได้มีให้ทุกที่นั่ง มีไม่กี่ผืน   เดินแจก
คนยกมือขอกันเต็มเครื่องยังกะเด็กด้อยโอกาสแย่งขออาหารแจกฟรี ส่งเสียงล้งเล้งๆ ~_~'
ละก็จะยื่นให้คนจีนที่ส่งเสียงดังๆก่อน  ใครดังกว่าจะได้ไป ไม่ได้รังเกียจคนจีนนะ เล่าตามเหตุการณ์
เดินทางมาตั้งเยอะ ไม่เคยเห็นพนักงานบนเครื่องไม่ยิ้มซักนิดเท่าสายการบินนี้เลย
สงสารเค้านะ ดูทำงานตามหน้าที่ไม่มีความสุขกันเลย

ปุ่มกดที่มีไว้เพื่อขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน ป้าๆ ก็กดเรียกขอน้ำ  ขอสาระพัด จิปาถะ จนพนักงงานเดินแทบขาขวิด หน้าหงิก 

พนักงานฟังเราถามประโยคง่ายๆ ว่าอาหาร มีอะไรบ้าง ก็ฟังเราไม่ออก ถามหลายรอบมาก ทั้งๆ ที่ประโยคพื้นฐานที่น่าจะได้ยินบ่อย

(ปกติมีสองเมนูให้เลือก ว่าจะเอาอะไร เราอยากรู้ว่ามีตัวเลือกอะไรบ้าง จะเลือกเอาอันที่ไม่ใช่เนื้อ เพราะไม่กินเนื้อ )
เราไม่ได้พูดสำเนียงดีหรอก ยอมรับ แต่ประโยคพื้นฐานแบบนี้ ปกติสื่อสารกับ สายการบินอื่น หรือคนอเมริกันเค้าฟังเข้าใจ
นี่ต้องอธิบาย ตั้งหลายรอบ 
โทษตัวเองละกัน ออกเสียงไม่ดีเอง 
 
ผู้โดยสารก็มีเรื่องคุยกันดีจัง  คุยเสียงยังกะเชียร์กีฬา ~_~'
กดไฟฉุกเฉินเรียกพนักงานบ๊อย บ่อย

ปล.เราไม่ใช่คนเรื่องมากเลยนะ  ทุกทีขึ้นเครื่อง กินแล้วนอนกินแล้วนอนอย่างมีความสุข
ไม่คาดหวังอะไร ขอให้เดินทางไปภุงบ้านปลอดภัยละกัน
มีอะไรมาเสริฟ กินได้ อร่อยหมด  บางทีเจอมีแต่เนื้อ เราก็กินมาม่าถ้วยที่เตรียมไป ไม่ทำความเดือดร้อนให้ใคร
ป้าๆ ไม่กดน้ำหลังทำธุระ  ก็กดให้ก็ได้  ~_~"
แต่ครั้งนี้ยอมแพ้จริงๆ ไม่ประทับใจ หลายๆอย่าง
ไม่ชอบตอนต่อเครื่องที่สนามบินนี้ และ ป้ายอย่างแรง   มีป้าย  International connecting flight
แต่ถ้าไปตามนั้นน่ะผิด ต้องไปตาม ต่อเครื่อง domestic แล้วมีป้ายนั้นทำไม
งง ไม่เข้าใจ
 
ฝรั่งเห็นก็งง   เดินผิดตามกันเป็นกลุ่ม
 
สายการบินที่ต้องไปต่อเครื่องที่จีน  ถ้าเลี่ยงได้ขอเลี่ยงไปตลอดชีวิตละกัน 
มิน่า ตั๋วเครื่องบิน ถึงได้ถูกมาก ~_~"
 

ไปไทยมาจ๊า

สวัสดีจ๊า  หายไปพักนึงไปไทยมาจ้ะ
 
ได้มีโอกาสไปเที่ยวกับเพื่อนสนิทด้วย
เอารูปมาฝากก่อนเลย เดี๋ยวมาเล่าต่อนะ





 


โอนเงินจากอเมริกาไปไทย โดยใช้บริการ MoneyGram หรือทางไหนดี

ส่งเงินจากอเมริกา ไปไทย ที่ไหน ทางไหนเรทดี ? คนมาอยู่อเมริกาคงมีคำถามนี้กันเนาะ วันนี้ยกตัวอย่างบางช่องทางนะคะ เราถนัด MoneyGram เพราะสะ...